​“จุรินทร์”ลงใต้ นำแพลตฟอร์มออนไลน์ ห้าง ผู้ส่งออก ลงนาม MOU ซื้อผลไม้ชาวสวน

img

“จุรินทร์”ลงใต้ นำแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง ห้าง และผู้ส่งออก เซ็น MOU กับชาวสวนผลไม้ รับซื้อผลไม้ไปขาย เพื่อช่วยดูแลราคาในช่วงผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด พร้อมสั่งพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศทำหน้าที่เซลส์แมนช่วยเกษตรกรขายของอย่างต่อเนื่อง และใช้มาตรการเสริม ทั้งการทำคอนแทรกฟาร์มมิ่ง และแลกเปลี่ยนสินค้า
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นสักขีพยานในการลงนาม MOU การเชื่อมโยงตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ระหว่างกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้อำเภอร่อนพิบูลย์ กับแพลตฟอร์มออนไลน์ Shopee , Lazada , JJMall , ไปรษณีย์ไทย ห้างโมเดิร์นเทรด (เซ็นทรัล เดอะมอลล์ โลตัส แม็คโคร บิ๊กซี) และผู้ประกอบการรวบรวมและส่งออกผลไม้ ว่า เป็นความตั้งใจจะมาช่วยชาวสวนผลไม้ แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผลไม้หลายตัวที่พึ่งพาตลาดส่งออกลำบาก ไม่มีช่องทางการส่งออก ส่งทางเรือมีปัญหา ด่านก็ปิด สนามบินก็ปิด แต่ได้หาทางออกและได้เข้าไปแก้ปัญหามาโดยตลอด ทั้งการเจรจาเปิดด่าน ผลักดันขนส่งผลไม้ทางอากาศ จนสามารถส่งออกผลไม้ไทยไปขายได้ และยังได้ปรับตัวเข้าสู่ยุค New Normal เปลี่ยนระบบการขายปกติเป็นการขายออนไลน์ ซึ่งทำสำเร็จในการจัดเทศกาลกินผลไม้ไทย 2 เดือน หรือเดือนทองของผลไม้ไทย โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ สามารถจำหน่ายผลไม้ทางออนไลน์ได้เป็นจำนวนมาก
         
ทั้งนี้ ยังได้จัดทำมาตรการเสริมเข้ามาช่วยอย่างต่อเนื่อง เช่น การทำสัญญาเกษตรพันธสัญญา หรือคอนแทรกฟาร์มมิ่ง โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะช่วยเป็นตัวกลางหาเกษตรกรมาพบกับผู้ซื้อ ซึ่งต้องซื่อตรงต่อกัน จะช่วยให้มีหลักประกันรายได้ที่แน่นอน และรูปแบบแลกเปลี่ยนสินค้า (บาเตอร์เทรด) โดยวันนี้ มีมันแกว อีกฝ่ายมีปลาแห้ง เอาปลาแห้งกับมันแกวแลกกัน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เราอยู่รอดได้
         


“ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดให้ทำหน้าที่เซลล์แมนจังหวัดด้วยการช่วยเกษตรกรขายของ ช่วยพ่อค้าขายของ หาตลาด เอาของบ้านเราไปแลกเปลี่ยนกับจังหวัดอื่น และระบายไปยังห้างโมเดิร์นเทรด ที่สำคัญเอาของไปขายโดยไม่คิดค่าพื้นที่หรืออาจคิดในราคาพิเศษ มีหลายห้างที่มาให้ความร่วมมือ แพลตฟอร์มออนไลน์ ก็ให้พื้นที่พิเศษ ไม่คิดค่าเปอร์เซ็นต์ รวมถึง Thailand Postmart ของไปรษณีย์ไทย ที่ให้ขนส่งฟรีถึง 200 ตัน”นายจุรินทร์กล่าว
         
รายงานข่าวจากกรมการค้าภายใน แจ้งว่า ปี 2563 ผลผลิตผลไม้ทั้งประเทศเพิ่มขึ้น 20% แต่ภาพรวมการผลิตผลไม้ภาคใต้ 14 จังหวัด ปี 2563 มีรวม 844,003 ตัน เพิ่มขึ้น 9.6% ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง โดยตั้งแต่เดือนส.ค. ภาคใต้จะมีผลไม้ออกมากที่สุด และจังหวัดที่มีผลผลิตมากที่สุด คือ ชุมพร รองลงมา คือ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ยะลา นราธิวาส ระนอง เป็นต้น โดยในปี 2563 ราคาผลไม้ปรับตัวสูงขึ้น คือ ทุเรียนหมอนทอง ขายได้กิโลกรัมละ 96 บาท จากราคาเฉลี่ยเมื่อเดือนส.ค.2562 คือ 73 บาท ราคาเพิ่มขึ้น 32% มังคุดกิโลกรัมละ 46.6 บาท เพิ่มขึ้น 28%

ก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ ได้ประชุมหารือร่วมกับชาวสวนผลไม้ ล้ง อุตสาหกรรมแปรรูป และผู้ส่งออก มีมติให้จัดทำ 9 มาตรการดูแลชาวสวนผลไม้ ได้แก่ มาตรการบริหารจัดการด้านแรงงาน มาตรการดูแลความเป็นธรรมทางการค้า มาตรการส่งเสริมซื้อขายผ่านสัญญาข้อตกลง มาตรการเชื่อมโยงกระจายผลผลิต มาตรการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย มาตรการรณรงค์การบริโภคในประเทศ มาตรการการผลักดันการส่งออก มาตรการเสริมสภาพคล่อง และมาตรการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการผลไม้  

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง