​“นภินทร” ดูพื้นที่จริง ถกผู้บริหารด่าน “หูหงิ-ด่งดัง” อำนวยความสะดวกส่งออกผลไม้ไทยไปจีน

img

“นภินทร”ลงพื้นที่ติดตามการขนส่งผลไม้ผ่านด่านสากลหูหงิ และด่านรถไฟด่งดัง เวียดนาม เพื่อเตรียมการรับฤดูผลไม้ไทยที่กำลังจะออกสู่ตลาด พร้อมหารือผู้บริหารจังหวัดลางเซิน ขอช่วยดูแลและแก้ปัญหา หากมีการติดขัดช่วงส่งผลไม้ไทยไปจีน กำชับทูตพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ที่ด่านใกล้ชิด มอนิเตอร์รถขนส่ง แจ้งเตือนผู้ประกอบการหากมีปัญหา และรีบประสานแก้ปัญหาในทันที
         
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน เดินทางไปสำรวจสถานการณ์การขนส่งผลไม้ เส้นทางการขนส่งผลไม้ ขั้นตอนการขนส่งผลไม้ผ่านด่าน จุดขนถ่ายสินค้า ที่ด่านสากลหูหงิ และด่านรถไฟด่งดัง จังหวัดลางเซิน กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่า ได้หารือกับนายโฮ่ เตี๊ยน เถียวะ ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดลางเซิน และผู้บริหารจังหวัดลางเซิน ถึงปัญหาที่จะเกิดขี้นในช่วงฤดูผลไม้ของไทยที่กำลังจะมาถึง และอาจจะมีปัญหาการติดขัดบริเวณหน้าด่าน จากการตรวจปล่อยรถ และการสุ่มตรวจสารปนเปื้อน บริเวณด่านของประเทศจีน ซึ่งหากล่าช้าจะทำให้เกิดความเสียหายกับผลไม้ไทยได้ ซึ่งประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดลางเซิน ยินดีให้ความร่วมมือ และจะดูแลการตรวจปล่อยรถบรรทุกของไทยจากด่านที่ตนรับผิดชอบให้เร็วที่สุด
         
ทั้งนี้ ปริมาณผลผลิตทุเรียนของไทย คาดว่าเฉพาะภาคตะวันออก จะมีจำนวน 7.8 แสนตัน และออกมากในช่วงเดือน พ.ค.2567 จำนวน 4.1 แสนตัน โดยไทยใช้ด่านของเวียดนามที่อยู่ในจังหวัดลางเซิน 2 ด่าน คือ ด่านทางบกหูหงิ และด่านรถไฟด่งดัง ซึ่งเป็นด่านหลักในการขนส่งผลไม้ไทยไปประเทศจีน
         
นายนภินทรกล่าวว่า ได้ตั้งเป้าในการขนส่งผลไม้จากไทยไปจีน ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง และได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ ณ กรุงฮานอย ดำเนินการแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น ให้ดำเนินการโดยด่วน คือ ติดตามสถานการณ์ด่านชายแดนในเวียดนามและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดลางเซิน เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการขนส่งผลไม้ไทยผ่านด่านไปยังจีน ให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) และสถานทูต ณ กรุงฮานอย ประสานกระทรวงพาณิชย์ เพื่อรับทราบจำนวนรถผลไม้ที่จะขนส่งผ่านด่านนครพนมในแต่ละวัน เพื่อมอนิเตอร์จำนวนรถให้ผ่านด่านต่าง ๆ   และประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดลางเซินทราบปริมาณรถที่คาดว่าจะมาที่ด่านหูหงิในแต่ละวัน และประสานขยายเวลาทำการในด่านหูหงิและด่านโหย่วอี้กวน (จีน) จาก 8 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมง และทำการทุกวันไม่เว้นทั้งวันหยุด
         


ระยะกลาง ให้เตรียมการใช้ประโยชน์จากกรณีที่จีนและเวียดนามอยู่ระหว่างก่อสร้างช่องทางด่านอัจฉริยะ ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และใช้รถไร้คนขับ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2568 และติดตามกรณีที่จีนและเวียดนามอยู่ระหว่างหารือระหว่างกันเพื่อจะปิดช่องทางขนส่งพิเศษที่เส้นแบ่งเขต กิโลเมตรที่ 1088-1089 ณ ด่านเตินแทง (เวียดนาม)-ด่านผู่จ้าย (จีน) โดยให้เตรียมการหารือขอให้จีนอนุญาตให้สินค้าทุกประเภทที่ส่งออกผ่านเวียดนามไปจีนผ่านช่องทางนี้ได้ และระยะยาว จีนและเวียดนามได้หารือและมีแผนระยะยาวที่จะเปิดช่องทางผ่านด่านเป็น 14 ช่อง โดยเป็นสินค้าขาออก 7 ช่องสำหรับสินค้านำเข้า 7 ช่อง ก็ให้เตรียมความพร้อมเอาไว้
         
“ได้กำชับให้ทูตพาณิชย์ของไทย ที่ประจำอยู่ที่กรุงฮานอย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้ประสานหน่วยงานของเวียดนาม อำนวยความสะดวกให้กับผลไม้ไทยเวลาผ่านด่านชายแดนเวียดนามไปยังจีน และให้ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน รวมถึงการปิด-เปิดด่านอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนผู้ประกอบการถึงสถานการณ์หน้าด่าน รวมทั้งให้ประสานงานกับด่านศุลกากรเวียดนาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการไทย หากมีปัญหาก็ให้รีบหารือกับผู้บริหารด่านของเวียดนาม เพื่อแก้ไขในทันที เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผลไม้ไทย”นายนภินทรกล่าว
         
สำหรับด่านหูหงิ เป็นด่านสำคัญที่รถขนส่งผลไม้จากไทยจะมาใช้บริการก่อนที่จะเข้าสู่ด่านโหย่วอี้กว่าน ของจีน โดยต้องติดตามสถานการณ์การขนส่งว่ามีปัญหาติดขัดที่หน้าด่านหรือไม่ เพราะใกล้จะเป็นช่วงฤดูผลไม้ของไทย และต้องใช้เส้นทางนี้ในการขนส่งสินค้าส่งออกผ่านไปจีน และด่านรถไฟด่งดัง เป็นด่านที่เชื่อมต่อไปยังด่านรถไฟผิงเสียงของจีน ห่างจากฮานอยประมาณ 171 กิโลเมตร และห่างจากด่านสากลหูหงิ ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งไทยจะใช้ด่านนี้เป็นด่านสำหรับส่งออกผลไม้ของไทยเข้าสู่ตลาดจีน ส่วนใหญ่เป็นทุเรียน โดยในแต่ละวันจะมีรถไฟ 5 ขบวนที่ส่งออกไปจีน และมี 5 ขบวนที่เข้ามาจากจีน และในช่วงฤดูผลไม้ไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีสินค้าทุเรียนไทยผ่านด่านรถไฟด่งดังไปจีน ประมาณ 10-20 ตู้ต่อวัน

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง