“จุรินทร์”จับมือ “วีรศักดิ์” มอบนโยบายการทำงานให้กับ “พาณิชย์จังหวัด” ย้ำต้องทำตัวเป็นเซลส์แมนของจังหวัด เป็นตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ในส่วนภูมิภาค ทำหน้าที่ขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร ประชาชน การันตีมีผลงาน มีโอกาสเติบโตเป็นผู้บริหาร พร้อมติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้ การเตรียมการรับมือสินค้าเกษตรออกสู่ตลาด ติดตามภัยแล้ง พัฒนาสินค้า GI เพิ่มค้าชายแดน และการดูแลค่าครองชีพ
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการมอบนโยบายและติดตามงานกระทรวงพาณิชย์ให้กับพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมกับนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2563 ว่า ได้ยืนยันกับพาณิชย์จังหวัดว่าเป็นหนึ่งในบุคลากรที่สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ จึงให้ความสำคัญกับพาณิชย์จังหวัดเสมอ และถือเป็นเบอร์หนึ่งของการปกครองในส่วนภูมิภาค นโยบายต่างๆ ของกระทรวงฯ ไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลย หากส่วนภูมิภาคไม่มีความเข้มแข็ง พาณิชย์จังหวัดจึงต้องมีความมั่นใจในตัวเอง และขอให้มั่นใจว่าฝ่ายนโยบายทุกคนเห็นว่าพาณิชย์จังหวัดมีศักดิ์ศรี และมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะในระดับจังหวัด แต่รวมถึงระดับประเทศ

“ทุกท่านเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ขอให้ทุกท่านต้องตระหนักถึงสิ่งนี้ ขอให้กล้าออกมายืนข้างหน้า เป็นทัพหน้า หรือแม่ทัพตัวจริงในต่างจังหวัด ในส่วนภูมิภาค และขอเน้นย้ำให้ท่านเพิ่มบทบาทการเป็นผู้ให้บริการประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ เกษตรกรต้องการรู้ว่าจะขายยังไง ที่ไหน ไม่ใช่แค่วิธีการผลิต นี่คือหัวใจสำคัญ และเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการเห็น โดยท่านมีความสำคัญไม่แตกต่างกันกับทูตพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัดต้องเป็นเซลส์แมนของจังหวัด เหมือนทูตพาณิชย์เป็นเซลส์แมนของประเทศ”

นายจุรินทร์ย้ำอีกว่า พาณิชย์จังหวัดต้องรอบรู้และเข้าใจถ่องแท้ถึงนโยบายและรัฐบาลและกระทรวงฯ เนื่องจากท่านเป็นผู้ปฏิบัติตัวจริง ในการแปลงนโยบายกระทรวงฯ ให้เป็นผลปฏิบัติ ความทุ่มเท ความเข้าใจในนโยบาย และความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่นๆ ในส่วนภูมิภาค จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานของท่านให้ประสบผลสำเร็จ

ทั้งนี้ หากทำได้ พาณิชย์จังหวัดก็จะสามารถเติบโตก้าวหน้าในอนาคตได้ และหากพาณิชย์จังหวัดมีผลงาน จะไม่ได้แค่เติบโตแค่ระดับจังหวัด แต่จะสามารถก้าวหน้าเป็นรองอธิบดี เป็นผู้บริหารระดับสูงได้ ซึ่งได้หารือกับท่านรัฐมนตรีช่วยและท่านปลัดกระทรวงแล้ว

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับการติดตามผลการปฏิบัติงานตามนโยบายในช่วงที่ผ่านมา ได้สอบถามความคืบหน้าการดำเนินโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิดว่ามีปัญหา อุปสรรคอะไรบ้าง และผลการดำเนินการเป็นอย่างไร และหารือถึงแผนงานเร่งด่วนที่จะดำเนินการในระยะต่อไป เพื่อเป็นการเตรียมการล่วงหน้า โดยให้ความสำคัญกับการเตรียมการเชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตรภายในประเทศ ในช่วงที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมาก เช่น กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ พาณิชย์จังหวัดจะต้องเร่งหาผู้ประกอบการรับซื้อล่วงหน้า เพิ่มเติมจากรายเดิม กรมการค้าภายในต้องประสานฝ่ายความมั่นคงและเพิ่มมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ต้องดูแลการขนย้าย ส่วนผลไม้ ต้องเตรียมทุกมาตรการรับมือกับผลผลิตที่กำลังออกสู่ตลาด โดยเฉพาะตลาดในประเทศ

นอกจากนี้ ขอให้ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งว่าจะมีผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรมากน้อยแค่ไหน และต้องเตรียมความพร้อมรับมือ ต้องให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ประกอบการชุมชน สตาร์ทอัพ การส่งเสริมให้มีการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เพิ่มขึ้น การส่งเสริมและพัฒนาตลาดในท้องถิ่น เพื่อเป็นช่องทางการค้าขาย ส่วนในจังหวัดที่ติดชายแดน จะต้องช่วยพัฒนาผู้ประกอบการในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนการค้าชายแดน และที่สำคัญ ต้องดูแลราคาสินค้าให้เกิดความเป็นธรรม ดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit