
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแปลงนโยบาย “สนธิรัตน์” สู่ภาคปฏิบัติ จับมือกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เปิดตัวโครงการ “โลจิสติกส์ชุมชน” ช่วยคนในท้องถิ่นทั่วประเทศ ใช้ประโยชน์จากรถกระบะที่มีอยู่ รับจ้างขนส่งสินค้าระยะใกล้ เพื่อเพิ่มรายได้ เผยยังได้จัดทำแอปพลิเคชันสำหรับเรียกใช้งาน เน้นง่าย สะดวก ไม่ซับซ้อน คาดเริ่มเฟสแรกกลางเดือนพ.ย.นี้ ในจังหวัดที่มีธุรกิจจำนวนมากก่อนที่เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยยายให้กรมฯ หาแนวทางเร่งสร้างรายได้เสริมให้แก่สมาชิกทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และคนในท้องถิ่นทั่วประเทศ ด้วยการจัดทำโครงการ “โลจิสติกส์ชุมชน” ที่เน้นการใช้รถกระบะ ซึ่งเป็นทรัพยากรหรือเครื่องมือทำมาหากินที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ในการเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้เกิดการหมุนเวียน
“กรมฯ ได้นำนโยบายลงสู่การปฏิบัติ โดยได้มีการหารือกับกองทุนหมู่บ้านฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว เพื่อขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว ซึ่งทุกคนเห็นด้วยและจะเร่งดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และจากนี้ไป กองทุนหมู่บ้านฯ จะเป็นผู้รวบรวมสมาชิกเพื่อเข้าร่วมโครงการ โดยจะนำร่องในจังหวัดที่มีธุรกิจเป็นจำนวนมากก่อน เช่น เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา เป็นต้น จากนั้นจะขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ประมาณกลางเดือนพ.ย.2561 นี้”นายวุฒิไกรกล่าว
นายวุฒิไกรกล่าวว่า สำหรับรูปแบบการให้บริการจะเน้นการให้บริการขนส่งสินค้าระยะใกล้หรือเฉพาะในพื้นที่ก่อน หรือในพื้นที่ที่ผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายอื่นเข้าไม่ถึง หลังจากนั้น จะมีการประเมินผลสำเร็จของการดำเนินงานและนำผลที่ได้มาพัฒนาการให้บริการเพื่อครอบคลุมพื้นที่อื่นๆ ที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ส่วนสินค้าที่รับขนส่งจะเน้นที่สินค้าโอทอป สินค้าชุมชน สินค้าเกษตร และสินค้าเอสเอ็มอีก่อนเป็นลำดับแรก และได้ขอความร่วมมือกรมการค้าภายในเชื่อมโยงความต้องการขนส่งสินค้าในพื้นที่ เช่น สมาร์ทฟาร์มเมอร์ ฟาร์มเอ้าท์เล็ท สินค้าโอทอป กลุ่มเกษตรกร บริษัทประชารัฐสามัคคี จำกัด และร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมฯ จะร่วมมือกับภาคธุรกิจในการใช้แพลตฟอร์มกลางในรูปแบบแอปพลิเคชั่น เชื่อมโยงระหว่างผู้ให้บริการ (สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ และคนในท้องถิ่นผู้เป็นเจ้าของรถกระบะ) กับผู้ที่ต้องการใช้บริการขนส่ง โดยทำหน้าที่จับคู่เพื่อให้บริการมีความสมบูรณ์และสะดวกรวดเร็ว เมื่อมีผู้ต้องการใช้บริการระบบจะแจ้งเตือนไปยังผู้ให้บริการที่อยู่ใกล้กับสถานที่ที่ผู้รับบริการต้องการขนส่งสินค้า เพื่อช่วยประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิง และสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วทันเวลา รวมถึงการจัดทำระบบและวิธีชำระเงินให้สะดวก ปลอดภัย และยุติธรรม ทั้งต่อผู้ให้บริการและผู้รับบริการ โดยแพลตฟอร์มกลางนี้จะมีระบบที่ใช้งานได้ง่าย ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน สะดวก รวดเร็ว ผู้ที่ไม่ถนัดในการใช้เครื่องมือสมัยใหม่ก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
ทั้งนี้ กรมฯ มั่นใจว่า โครงการโลจิสติกส์ชุมชน จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในระดับพื้นที่ เนื่องจาก 1.ผู้ให้บริการมีความชำนาญในเส้นทางพื้นที่จังหวัดที่ให้บริการ 2.มีเครือข่ายให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ 3.มีระบบการติดตามและตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ 4.ผู้ใช้บริการได้รับสินค้าครบถ้วนและถูกต้องภายในเวลาที่เหมาะสม และ 5.ราคาการให้บริการมีความสมเหตุสมผล
ปัจจุบันกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจัดตั้งแล้ว จำนวนรวมทั้งสิ้น 79,595 กองทุน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561) แยกเป็น 1.กองทุนหมู่บ้าน จำนวน 75,000 กองทุน 2.กองทุนชุมชนเมือง จำนวน 3,857 กองทุน 3.กองทุนชุมชนทหาร จำนวน 738 กองทุน ทั้งนี้ เป็นกองทุนหมู่บ้านฯ ที่จัดตั้งระหว่างปี 2544-2557 จำนวน 79,255 กองทุน และเป็นกองทุนชุมชนเมืองจัดตั้งใหม่ ระหว่างปี 2558-2560 จำนวน 340 กองทุน
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง