“น้ำมันปาล์ม”ขึ้นได้-ลงได้

img

สัปดาห์ที่ผ่านมา หลาย ๆ ท่าน คงได้พบได้เห็น “น้ำมันปาล์ม” ราคาต่ำกว่า 50 บาทกันแล้ว หลังจากเมื่อช่วงต้นปี ประมาณเดือน ม.ค.-ก.พ.2568 ราคาขยับขึ้นไปสูงถึงขวดละ 65 บาท
         
ตอนนั้น “ร้านอาหาร-ร้านทอด” โวยวายกันใหญ่ หลาย ๆ ร้านบอก “ต้นทุน” ขึ้น ขอปรับขึ้นราคาหน่อยก็แล้วกัน ทำเอาผู้บริโภคถึงขั้นพูดไม่ออก ต้อง “รับสภาพ” กันไป
         
กรมการค้าภายใน” ชี้แจงเหตุผลว่า เป็นเพราะเกิดสถานการณ์ “ภัยแล้ง” และเกิด “อุทกภัย” หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ช่วงปลายปี 2567 ทำให้ผลผลิต “ปาล์มน้ำมัน” มีทะลายขนาดเล็กและไม่สมบูรณ์ กระทบอัตราการสกัดน้ำมันลดลงอยู่ที่ระดับ 17% ส่งผลกระทบต่อราคารับซื้อผลปาล์มแพงขึ้นกิโลกรัมละ 9-10.40 บาท และส่งผลกระทบต่อ “น้ำมันปาล์มดิบ” ที่เป็นต้นทุนของ “น้ำมันปาล์มขวด” สูงขึ้นตามไปด้วย
         
แต่ช่วงนั้น มีการคาดกันว่า พอถึงเดือน มี.ค.2568 ที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
         
ต่อมา ทันทีที่ผลผลิตออกมาก ราคาปาล์มน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ช่วงเดือน เม.ย.2568 ราคาต่ำกว่า 5 บาท และวิ่งวนแถว ๆ 5 บาท หลังจากกรมการค้าภายใน มีมาตรการเข้าไปพยุงราคา และยืนราคาระดับนี้บวกลบ จนถึงปัจจุบัน
         
จากราคาปาล์มน้ำมันที่ลดลง นั่นหมายความว่า ต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มดิบลดลงตามไปด้วย และต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มขวด ก็ลดลงเช่นเดียวกัน
         
กรมการค้าภายในจึงได้ทำการ “สะกิด” ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มขวด ให้ปรับลดราคาจำหน่ายลงมา เพราะเมื่อต้นทุนลดแล้ว ราคาก็ควรจะลดลง
         


หากมี “คำถาม” ทำไมราคาถึงลดลงทันทีไม่ได้ “คำตอบ” ก็คือ เนื่องจาก ผู้ผลิตมี “ต้นทุนเดิม” ที่เคยซื้อน้ำมันปาล์มดิบช่วงราคาปาล์มแพง ๆ เก็บไว้ในสต๊อกอยู่ จะให้ลดลงทันที ก็ทำไม่ได้ แต่เมื่อมีสต๊อกใหม่ ราคาถูก เข้ามาแทนที่ ก็เริ่มที่จะปรับลดราคาลงได้
         
เรา ๆ ท่าน ๆ จึงได้เห็น “น้ำมันปาล์มขวด” ปรับลดราคาต่ำกว่า 50 บาทแบบทันที และพร้อมกันทุกยี่ห้อ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดกันว่า ราคาน่าจะลดลงไปอยู่ที่ระดับ 46-49 บาทต่อขวดด้วยซ้ำ ถ้าแข่งขันกันรุนแรง อาจได้เห็นต่ำกว่านี้อีก
         
ส่วนสต๊อก “น้ำมันปาล์มดิบ” ที่เพิ่มขึ้น ได้มีการเตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาไว้แล้ว โดยจะเร่งผลักดันการส่งออก ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 9 แสนตัน จากที่ช่วง 5 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-พ.ค.) ส่งออกไปแล้วประมาณ 4.2 แสนตัน และล่าสุดเพิ่งทำการส่งออกเพิ่มได้อีก 5.9 หมื่นตัน เป็นการส่งออกน้ำมันปาล์ม 3.2 หมื่นตันไปอินเดีย น้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ 7 พันตันไปจีน และกะลาปาล์ม 2 หมื่นตัน ไปญี่ปุ่น
         
สำหรับการดูแล “ราคาปาล์ม” ให้กับเกษตรกร “คณะกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม” ได้ขีดเส้นให้ “โรงสกัด” ปรับราคารับซื้อปาล์มน้ำมัน ณ หน้าโรงงานสกัดทั่วประเทศ (อัตราน้ำมัน 18%) จาก กก. ละ 5 บาท เป็น 5.20 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา ต้องดูว่าสัปดาห์นี้ จะยืนราคาเดิม หรือปรับราคาขึ้นอีก แต่เรื่อง “ลดราคาลง” คงไม่มี
         
​ขณะเดียวกัน ได้ส่ง “ทีมเฉพาะกิจ” ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ตรวจสอบการรับซื้อผลปาล์ม ทั้งที่ “โรงงานสกัด-ลานเท” หากพบว่าการรับซื้อยังไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่ขอความร่วมมือไว้ จะถือว่า “เข้าข่ายจงใจ” ทำให้เกิด “ความปั่นป่วน” ซึ่งราคาสินค้า ตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ก็จะใช้ “ยาแรง” เอาผิดตามกฎหมายทันที
         


กลับมาที่ราคาน้ำมันปาล์มขวด ตอนนี้ ทีมตรวจสอบราคา ทั้งกรมการค้าภายใน สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ต่างลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่าย ทั้งในห้าง ตลาดสด ร้านค้าทั่วไปแล้ว
         
หากราคาจำหน่ายยังไม่ต่ำกว่า 50 บาท ก็ต้องชี้แจงได้ เพราะถ้าเป็นสต๊อกที่เคยซื้อไว้เดิม ก็เข้าใจได้ แต่ถ้าเป็นสต๊อกใหม่ แต่ยังขายราคาแพง รับรอง “มีปัญหา” แน่
         
ด้านผู้บริโภค ถ้าพบเห็นหรือโดนเอาเปรียบ ก็แจ้งมาได้เลยที่สายด่วน 1569 หรือไลน์แอด @MR.dit หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ  
         
ส่วน “อาหาร-ของทอด” ที่พ่อค้าแม่ค้า อ้างน้ำมันปาล์มแพงแล้วขึ้นราคาไปก่อนหน้านี้ จะลดลงตามหรือไม่
         
คำถามนี้ ผู้เขียนตอบไม่ได้จริง ๆ คงต้องฝากกรมการค้าภายในช่วยดู และขอฝากไปยัง “พ่อค้าแม่ค้า” เมื่อต้นทุนลด อะไรที่ “เคยอ้าง” ว่าเป็นต้นทุน แล้วพอมันลดลง ก็ควรจะลดราคาตาม
         
ไม่ใช่ทำตัวเนียน ๆ นิ่ง ๆ “ขึ้นแล้ว-ขึ้นเลย
         
อยากให้เหมือน “น้ำมันปาล์มขวด” ที่เวลาต้นทุนขึ้น ก็ขึ้น ต้นทุนลง ก็ลง
         
แล้ววันนี้ “กรมการค้าภายใน” ทำให้เห็นแล้วจริง ๆ
 
ซีเอ็นเอ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง