​“กรมพัฒน์”สกัดบริษัทผี

img

เมื่อสัปดาห์ก่อน มี “ข่าว” ที่น่าสนใจข่าวหนึ่ง ก็คือ มีผู้ออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย บอกว่า แม่ถูก “แก๊งคอลเซนเตอร์” หลอกเงินไปกว่า 1.2 ล้านบาท โดยให้โอนเงินไปยัง “บัญชีนิติบุคคล” และน่าจะเป็นเคสแรก ๆ ที่เกิดขึ้น จากการใช้ “ความน่าเชื่อถือ” ของนิติบุคคล ทำให้คนถูกหลอก “หลงเชื่อ
         
ทันทีที่มีข่าวออกมา “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ได้ “ตรวจสอบ” ทันทีเช่นเดียวกัน พบว่า เป็นบริษัท “ไม่มีที่ตั้ง” เพราะ “เจ้าบ้าน” ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่ตั้ง แสดงว่า บริษัทนี้ ตั้งขึ้นมาแล้วอ้างที่อยู่แบบมั่ว ๆ แล้วมายื่นจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล
         
เมื่อพบ “ความผิด” กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ตามมาตรา 1148 มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท เพราะ “บริษัทจำกัด” ต้องมี “สำนักงานที่ตั้ง” และ “แจ้งต่อนายทะเบียน” และยังเข้าข่าย “ความผิดอาญา” ฐานแจ้ง “ความเท็จ” แก่เจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
         
พร้อม “ส่งข้อมูล” ให้ตำรวจ เพื่อนำไปประกอบการ “สืบสวน” ว่าเข้าข่ายเป็น “บัญชีม้านิติบุคคล” หรือไม่ และดำเนินการ “จับกุม” ภายใต้อำนาจหน้าที่ของตำรวจต่อไป
         
หากถามว่า ทำไมถึงปล่อยให้บริษัทที่ไม่มีที่ตั้งถูกต้องเข้ามาจดทะเบียนได้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าชี้แจงว่า ในการยื่นจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล ได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ หากยื่นจดทะเบียนถูกต้อง ก็รับจด แต่กลับกลายเป็นว่า มีผู้ประสงค์ร้าย ใช้ประโยชน์จากการอำนวยความสะดวกเข้ามาจดบริษัทแล้วนำไปใช้หลอกลวงประชาชน
         
ปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ภาครัฐได้คุมเข้ม “บัญชีม้า” ทำให้ “มิจฉาชีพ-แก๊งคอลเซนเตอร์” ต้องหาวิธีการใหม่ ก็เลยใช้ประโยชน์จากการจดตั้งบริษัท แล้วนำมาใช้เป็น “บัญชีม้านิติบุคคล” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและใช้หลอกลวงประชาชน
         


กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่ได้ “นิ่งนอนใจ” ทำงาน “เชิงรุก” กำหนด “มาตรการป้องกันนิติบุคคลผีหลอกลวงประชาชน” ทันที
         
เริ่มจาก “ออกคำสั่ง” นายทะเบียนกลาง เรียก “เอกสารเพิ่มเติม” กรณี “จดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่” หรือ “เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งสำนักงาน” โดยผู้ยื่นจด ต้องมีเอกสารจากเจ้าของสถานที่ตั้ง “ยินยอม” ให้ใช้เป็นสำนักงานนิติบุคคล เช่น สัญญาเช่า หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่
         
ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการเปิด “รับฟังความคิดเห็น” ใครที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 15 ก.พ.นี้
         
ส่วนที่คนกังวลว่าจะมีใครมา “แอบใช้” ที่อยู่บ้านตัวเองเป็น “สถานที่ตั้ง” สำนักงานนิติบุคคล ได้จัดทำระบบให้ประชาชน “ตรวจเช็ก” ว่า บ้านหรือที่อยู่ของตนเอง มีการนำไปใช้เป็นที่ตั้งนิติบุคคลหรือไม่แล้ว คาดว่าจะเริ่มใช้ได้เร็ว ๆ นี้  
         
ต่อไปหากประชาชน “ตรวจสอบแล้ว” พบว่า มีการนำ “ที่อยู่” ไปใช้โดยไม่ได้ให้ความยินยอม สามารถแจ้งมายังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรืออีเมล [email protected] (เฉพาะกรุงเทพฯ) หรือสายด่วน 1570 จากนั้นเมื่อตรวจสอบ พบว่า ไม่มีที่ตั้งจริง จะระบุในระบบว่านิติบุคคลรายดังกล่าว “ไม่มีที่ตั้ง” ตามที่จดทะเบียน และ “ส่งเรื่อง” ให้ตำรวจ “ดำเนินคดี” ฐานแจ้งความเท็จด้วย
         
ที่เด็ดไปกว่านั้น จะร่วมมือกับ “บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด” ตรวจสอบ “สถานที่ตั้งนิติบุคคล” ตามที่ผู้ขอจดทะเบียนได้แจ้งไว้ และ “ปักหมุด” พร้อม “แสดงภาพถ่าย” ในลักษณะแผนที่ Google Map เพื่อให้ตรวจสอบที่ตั้งบริษัทและเห็นภาพจริง
         
นอกจากนี้ จะ “เข้มงวด” การมายื่นจดทะเบียนของบุคคลที่มีรายชื่อใน “บัญชี HR-03” ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หากมา “ยื่นจด” ทะเบียนนิติบุคคล หรือ “แจ้งชื่อ” เป็น “ผู้จัดการห้างหุ้นส่วน-กรรมการบริษัท” จะเรียกมา “แสดงตน” หาก “ไม่มา” ก็จะ “ไม่จดทะเบียนให้” และยังส่งข้อมูลต่อให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) เพื่อติดตามขยายผล
         


ขณะเดียวกัน อยู่ระหว่างพัฒนาระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล หรือ Intelligence Business Analytic System (IBAS) ซึ่งจะใช้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วย “แจ้งเตือน” ประชาชนทั่วไปให้ทราบ หากจะ “ทำธุรกรรม” กับนิติบุคคลที่มี “ความเสี่ยง
         
พร้อมกันนี้ ได้ตั้ง “ทีมเฉพาะกิจ” เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น มี “นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า” เป็นหัวหน้าทีม จะเข้ามา “กำกับดูแล” และ “ขับเคลื่อน” การใช้มาตรการให้สำเร็จผลโดยเร็ว เพื่อ “ดูแล” ประชาชน “ป้องกัน” และ “กำจัด” นิติบุคคลผีที่จะเข้ามาหลอกลวงประชาชนให้หมดไป
         
มาตรการที่ว่ามาทั้งหมด หากเป็นผู้ที่สุจริต หรือผู้ที่ต้องการทำธุรกิจจริง ๆ คงไม่ได้รับผลกระทบ เพราะไม่ได้ “เพิ่มภาระ” อะไรเลย
         
สำหรับผู้ที่ “ไม่หวังดี-ประสงค์ร้าย” คงทำอะไรได้ยากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่า ปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลจะหมดไปในทันที เพราะหากรัฐ “ปิดกั้น” ช่องนี้ ก็จะหาทางไปโผล่ช่องโน้น หาทางดิ้นไปเรื่อย  
         
ประชาชน” ต้องสร้าง “ภูมิคุ้มกัน” ให้ตัวเอง ใครมา “ชักชวน” ให้ทำโน่นทำนี่ หรือหลอกให้ลงทุน หลอกให้โอนเงิน หลอกให้นำเงินไปตรวจสอบ สารพัดจะหลอก

ขอให้ “มีสติ” คิดซักนิด ฉุกใจซักหน่อย จะได้ไม่ตก “เป็นเหยื่อ
 
ซีเอ็นเอ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง