ทุกวันนี้ หลาย ๆ คน คงเคยโดน “แก๊งมิจฉาชีพ” โทรมาหลอก ส่งข้อความมาหลอก ส่งอีเมลมาหลอก ส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊กมาหลอก และอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่มากก็น้อย
บางคน “หลงกล” ถูกหลอกจน “หมดเนื้อหมดตัว” บางคน “รู้ทัน” และไม่ตก “เป็นเหยื่อ”
แต่มิจฉาชีพก็ไม่หยุดเพียงแค่นี้ มีการปรับ “รูปแบบ” และ “วิธีการหลอกลวง” ในรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น
ที่ผ่านมา “กระทรวงพาณิชย์” มีหลายหน่วยงานที่ถูกมิจฉาชีพนำชื่อไป “แอบอ้าง” เพื่อใช้ “หลอกลวง” ประชาชนและภาคธุรกิจ
มีการ “แจ้งความ” ไปก็มาก แต่ปิดตรงนี้ ก็ไปโผล่ตรงโน้น และทุกวันนี้ ก็ยังมีอยู่
ล่าสุด เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ มีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็น “เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ทำในรูปแบบ “โทรศัพท์หา” หรือ “ส่งเป็นหนังสือราชการ” แต่เป็นการ “ปลอมขึ้นมา” โดยส่งผ่านทาง “ข้อความ-ไลน์-เฟซบุ๊ก” เพื่อให้ผู้ประกอบการ “อัปเดต” ข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน
แถมยังสร้าง “ความน่าเชื่อถือ” ด้วยการใช้ชื่อและโลโก้ “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” และทำกระทั่ง “ปลอมแปลง” หน้าเว็บไซต์ให้มีรูปแบบคล้ายกับเว็บไซต์จริง
ไม่เพียงแค่นี้ ยัง “แอบอ้าง” ว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จัดตั้ง “กองทะเบียนธุรกิจออนไลน์” ขึ้นมาใหม่ และขอให้ผู้ประกอบการ “ยืนยันตัวตน” ของนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน
โดยอ้าง “เหตุผล” เพื่อ “ความปลอดภัย” ของข้อมูลธุรกิจ และ “ยังขู่” นิติบุคคลว่า ถ้าไม่ “ปรับปรุง” จะทำการ “ลบชื่อ” นิติบุคคลนั้นออกจากระบบ
รวมทั้งอ้างว่า เพื่อแก้ปัญหานิติบุคคลเป็น “นอมินี” ให้นักลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจเกิด “ความหวาดกลัว” และ “หลงเชื่อ” ดำเนินการคลิกลิ้งค์ที่ถูกส่งมาให้ เพื่ออัปเดตข้อมูลนิติบุคคลหรือข้อมูลส่วนบุคคลตามกลโกงของมิจฉาชีพ
นอกจากนี้ “มิจฉาชีพ” ยังได้อ้าง “ข้อกฎหมาย” ที่มีบทลงโทษหนัก เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนเกิดความหวาดกลัว และทำตามที่มิจฉาชีพหลอกด้วย
“นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า” กล่าวว่า ขอย้ำกับภาคธุรกิจและประชาชนว่า “กรมไม่เคยมีการจัดตั้งกองทะเบียนธุรกิจออนไลน์ และไม่มีนโยบายทักหาภาคธุรกิจและประชาชนก่อน โดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย โดยที่ประชาชนท่านนั้นไม่ได้สอบถามข้อมูลมา”
“ขอเตือนให้ภาคธุรกิจและประชาชนพึงระวัง หากได้รับการติดต่อจากบุคคลในลักษณะดังกล่าว อย่าหลงเชื่อหรือกดดาวน์โหลดไฟล์เอกสารหรือคลิกลิ้งก์ที่แนบมา เนื่องจากเป็นการกระทำของมิจฉาชีพ เพราะไม่เช่นนั้น รู้ตัวอีกทีเงินที่มีอยู่ในบัญชีจะถูกโอนออกไปจนหมด ทำให้ทั้งภาคธุรกิจและประชาชนได้รับความเสียหายเป็นอันมาก”นางอรมนกล่าว
การออกมาเตือนในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็น “ครั้งแรก” ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยนับไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเตือนครั้งที่เท่าไรแล้ว แต่ก็ยังมีคนตกเป็นเหยื่ออยู่
ก็ขอ “ร่วมด้วย-ช่วยเตือน” ผ่านข้อเขียนนี้ เผื่อใครที่แวะมาอ่าน จะได้รู้เท่าทัน
ส่วนคำถามที่ว่า “จะตรวจสอบยังไง” กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีช่องทางการตรวจสอบหลายช่องทาง ถ้าเป็นการตรวจสอบ “บริษัท” ว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ สามารถตรวจได้ผ่านเว็บไซต์ www.dbd.go.th >> บริการออนไลน์ >> บริการข้อมูลธุรกิจ >> DBD DataWarehouse+
หรือผ่านแอปพลิเคชัน “DBD e-Service” ดาวโหลดได้ทั้ง IOS และแอนดรอย
หรือผ่านไลน์แอด @DBD1570
หรือถ้าต้องการคุยกับคนเป็น ๆ ก็โทรสายด่วน 1570
มี “ช่องทาง” ให้เลือกหลากหลายในการ “สอบถาม” เพราะฉะนั้น ใครติดต่อมา ใครโทรมา หรือใครขอให้ทำโน่นทำนี่
กรุณา “เอะใจ” ซักนิด “ตรึกตรอง” ซักหน่อย จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
“สติ” เท่านั้น ที่จะช่วยให้ “อยู่รอด-ปลอดภัย” ในยุคที่มิจฉาชีพเต็มไปหมด
เพราะถ้า “หลงกล” ไปแล้ว
อาจเสียหายถึงขั้น “หมดตัว” เลยก็ได้
ซีเอ็นเอ
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง