​“เงินฝืด” ฝืดแค่ทฤษฎี ไม่ต้องกังวล

img

คงผ่านตากันไปบ้าง สำหรับตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือน พ.ค.2563 ที่กระทรวงพาณิชย์เพิ่งประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ว่า ติดลบ 3.44%
         
ตัวเลขดังกล่าว เป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี กับอีก 10 เดือน นับจากก.ค.2552 ที่ลดลง 4.4%
         
ที่น่าตกใจไปกว่านั้น ก็คือ เงินเฟ้อเดือนพ.ค.2563 เป็นการติดลบ เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
         
โดยเดือน มี.ค.2563 ลบ 0.54% เม.ย.2563 ลบ 2.99% และพ.ค.2563 ลบ 3.44%
         
แสดงว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะตามทฤษฎีที่เล่าเรียนกันมา ถ้าเงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 3 เดือน จะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด
         
เงินฝืด คือ อะไร พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไป ลดลงอย่างต่อเนื่อง
         
ส่วนเงินเฟ้อ จะเป็นตรงกันข้าม เป็นภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไป สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
         
การเกิดภาวะเงินฝืด ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ เพราะเมื่อสินค้าและบริการลดราคาลง แต่คนก็ยังไม่ซื้อ ก็จะกระทบเป็นวงกว้าง คนผลิตแล้วขายไม่ได้ จะเกิดการเลิกจ้างงาน คนตกงาน ไม่มีเงินกิน
         
สุดท้าย จะกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง
         
แต่ช้าก่อน จะสรุปฟันธงแบบนี้เลยไม่ได้
         


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) บอกว่า เงินฝืดเป็นการฝืดทางเทคนิค ไม่ใช่ฝืดจริง จึงไม่น่ากังวล
         
พร้อมอธิบายต่อแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า เงินเฟ้อที่ลดลงจนติดลบ เพราะมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะมีการปรับขึ้นหลายครั้ง แต่ก็ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเปรียบเทียบเดือนพ.ค.2563 กับพ.ค.2562 ลดลงถึง 27.97%

ยังมีการลดลงของหมวดอาหารสดอีก 1.24% โดยเฉพาะผักสดลด 15.84% ต่ำสุดในรอบ 36 เดือน

ขณะเดียวกัน ยังได้แรงหนุนจากมาตรการช่วยลดค่าครองชีพของรัฐบาล ที่ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ทำให้หมวดเคหสถานลด 5.61%

และยังมีการลดราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับผู้ผลิต ห้างในเมือง ห้างท้องถิ่น ลดราคาอีก 4,845 รายการ ก็ยิ่งทำให้ราคาสินค้าไม่ปรับตัวสูงขึ้น
         
ส่วนราคาสินค้าทั่วไป ยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่เป็นปกติ สอดคล้องกับการผลิตและความต้องการ แสดงว่าเงินเฟ้อยังมีการเคลื่อนไหว
         
“ถ้ามองตามทฤษฎี เกิดเงินฝืดทางเทคนิคจริง เพราะเงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 3 เดือน แต่มันฝืดไม่จริง เพราะสินค้าส่วนใหญ่ยังเพิ่มขึ้น แต่บังเอิญ หมู เห็ด เป็ด ไก่ มันไม่สามารถไปทำให้เงินเฟ้อภาพรวมเพิ่มขึ้นได้ เพราะน้ำมัน ค่าน้ำ ค่าไฟ และสินค้าที่ลดจากมาตรการลดค่าครองชีพ มันลดลงมากกว่า ทำยังไงก็ดึงไม่ขึ้น มันก็เลยติดลบ”
         
จะเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจไทย   
         


ในชั้นนี้ ไม่ เพราะแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจยังมีอยู่ เงินเฟ้อยังมี แต่การที่ราคาไม่ขึ้นมาก ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า   
         
แต่จะให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแบบหวือหวา คงไม่เกิดขึ้น แม้เดือนมิ.ย.2563 กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มขยับ จากการที่รัฐบาลปลดล็อก และยังสิ้นสุดมาตรการลดค่าน้ำ ค่าไฟ แต่มาตรการลดราคาสินค้ายังอยู่
         
คาดว่า เงินเฟ้อ ยังทรงตัวในระดับต่ำ และน่าจะอยู่ในแดนติดลบ เพราะฐานน้ำมันปีก่อนสูง แม้ตอนนี้น้ำมันจะขยับขึ้น แต่ก็ยังไม่เท่ากับปีก่อน
         
เพราะฉะนั้น หากจะเห็นตัวเลขเงินเฟ้อติดลบอีกซัก 2-3 เดือน ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล

ซีเอ็นเอ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด