
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
กรมการค้าภายในเผย “หมู่บ้านอินทรีย์” เริ่มฮอต หลัง “สนธิรัตน์”สั่งขับเคลื่อนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็กอินแห่งใหม่รองรับนักท่องเที่ยวหัวใจอินทรีย์ เผยล่าสุดนักท่องเที่ยวแห่เที่ยวหมู่บ้านยางแดงทะลัก ทั้งเข้าไปชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ชิมสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ผลิตได้ และชอปสินค้าติดไม้ติดมือกลับบ้าน เตรียมแผนผลักดันบูมหมู่บ้านอินทรีย์ที่เหลืออีก 7 แห่งต่อไป
น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการผลักดันให้หมู่บ้านอินทรีย์ทั้ง 8 แห่ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็กอินแห่งใหม่ตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้หมู่บ้านยางแดง ที่ตั้งอยู่ใน ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้าไปเที่ยวชมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กรมฯ ได้เปิดตัวให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ไปเมื่อเดือนม.ค.2561 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างแท้จริง
“ทางชุมชนแจ้งกรมฯ มาว่า หลังจากที่ไปช่วยเปิดตัว ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวกันมากมาย มีทั้งมากันเอง มาเป็นคณะ หรือจองทัวร์กันมาเลย แล้วบอกว่าอยากไปดูอะไร ไปทำอะไร เช่น ไปดูวิถีชีวิตชาวบ้าน การเพาะปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์ หรือไปท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ของหมู่บ้าน ซึ่งชุมชนก็พร้อมที่จะจัดให้ เพราะสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้เป็นอย่างมาก และรู้สึกขอบคุณที่กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำโครงการดีๆ แบบนี้ออกมา”น.ส.สุทัศนีย์กล่าว
สำหรับรูปแบบการเข้าไปเที่ยวชมหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์ กรมฯ ได้สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมในรูปแบบ 3 ช คือ ชม ชิม ชอป กล่าวคือ การเข้าไปชมวิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านว่าเป็นยังไง มีการดำรงชีวิตและการเพาะปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างไร เพื่อสร้างการตระหนักและการรับรู้ถึงที่มาที่ไปของสินค้าอินทรีย์ที่เป็นของที่ดีต่อสุขภาพ การเลือกชิม เลือกบริโภคสินค้าอินทรีย์ที่ผลิตได้ในหมู่บ้าน ซึ่งจะมีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน รวมถึงผลไม้ชนิดต่างๆ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์จริงในขณะท่องเที่ยว และการชอป หรือการเลือกซื้อสินค้าติดไม้ติดมือกลับบ้าน เพื่อนำไปบริโภคเองหรือเป็นของฝากให้กับเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง
น.ส.สุทัศนีย์กล่าวว่า กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันให้หมู่บ้านอินทรีย์ที่เหลืออีก 7 แห่ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ เพราะทุกแห่งเป็นหมู่บ้านที่มีศักยภาพและมีจุดเด่นแตกต่างกัน สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งกรมฯ มั่นใจว่า หากทำได้สำเร็จ จะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากครั้งใหญ่ และเป็นการเพิ่มรายได้อย่างถาวรให้กับเกษตรกรและคนในชุมชน
โดยหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์อีก 7 แห่ง ที่จะเข้าไปสนับสนุน ได้แก่ 1.หมู่บ้านริมสีม่วง ต.ริมสีม่วง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มีสินค้าเด่น คือ มันหวานญี่ปุ่น มะนาว มะม่วง แมคคาเดเมีย สตอเบอรี่ กล้วย พืชผักเมืองหนาว และกาแฟ 2.หมู่บ้านห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมปทุม ข้าวไรซ์เบอรี่ ผักสวนครัว 3.หมู่บ้านโสกขุมปูน ต.นาโส่ อ.กุดชุม จ.ยโสธร มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวมะลิแดง ผักสวนครัว 4.หมู่บ้านทัพไทย ต.ทมอ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวหอมนิล 5.หมู่บ้านหนองสะโน ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวสารบรรจุถุง (ข้าวหอมมะลิและข้าวกล้องหอมมะลิ) 6.หมู่บ้านหนองหอย ต.กุดชุมแสง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวสารบรรจุถุง (ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียว กข.6) ใบหม่อน กล้วยน้ำว้า กล้วยหอมทอง ตะไคร้ ฟักทอง 7.หมู่บ้านท่าเดื่อน้อย ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี มีสินค้าเด่น คือ ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวทับทิมชุมแพ ข้าวโพด งาดำ ถั่วขาว ผักสวนครัว ผลไม้ พืชสมุนไพร
นอกจากนี้ ในปี 2561 กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันให้มีการเปิดหมู่บ้านอินทรีย์อีก 4 แห่ง และจะผลักดันให้เปิดหุบเขาอินทรีย์ 1 แห่ง รวมถึงการขยายออร์แกนิก ฟาร์ม เอาเล็ต เพิ่มอีก 4 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 15 แห่ง ทำให้ภายในปี 2561 จะมีหมู่บ้านอินทรีย์ทั้งสิ้น 12 แห่ง หุบเขาอินทรีย์ 1แห่ง และออร์แกนิก ฟาร์ม เอาเล็ต 19 แห่ง
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง