
“พาณิชย์”จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการเจรจา FTA ไทย-EU เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เกษตรกร ผู้ประกอบการ นักวิชาการ การเมือง และภาคประชาสังคม ได้เข้ามามีส่วนร่วมกำหนดทิศทางการเจรจาอย่างมีประสิทธิภาพ เผยล่าสุดคุยจบแล้ว 7 บท จาก 24 บท นัดถกรอบที่ 7 ก.ย.นี้ ย้ำเดินหน้าเร็ว แต่มีคุณภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับไทย
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–สหภาพยุโรป (EU) ภายใต้งาน “Voice x Vision: Thai-EU FTA in Focus” (Stakeholder Consultation Workshop: Thai-EU FTA) ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD ร่วมมือกับผู้แทนการค้าไทย จัดเวทีดังกล่าว เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ เกษตรกร ผู้ประกอบการ SME ภาคเอกชนรายใหญ่ ภาควิชาการ ภาคการเมือง และภาคประชาสังคม ร่วมแสดงความคิดเห็นและสะท้อนความสนใจในการเจรจา FTA ไทย–EU เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการเจรจาอย่างมีเอกภาพ สมดุล และยั่งยืน
ทั้งนี้ ปัจจุบันการเจรจา FTA ไทย–EU มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี มีการเจรจาแล้ว 6 รอบ และสามารถสรุปความตกลงได้แล้ว 7 บท จากทั้งหมด 24 บท ประมาณ 1 ใน 3 หากบรรลุผลสำเร็จ จะเป็นโอกาสสำคัญต่อการค้าและการลงทุนของไทย สร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยสามารถเข้าถึงตลาดสหภาพยุโรปที่มีขนาดใหญ่และกำลังซื้อสูง และยังช่วยดึงดูดการลงทุนจากธุรกิจยุโรปในอุตสาหกรรมอนาคต เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งยังช่วยยกระดับมาตรฐานการค้าไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานโลก อาทิ ทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การค้าดิจิตัล รวมถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
สำหรับประเด็นหารือในเวทีนี้ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน 3 หัวข้อสำคัญ ได้แก่ 1.การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยเน้นการใช้ประโยชน์เชิงรุกและรับฟังข้อกังวลเพื่อปรับท่าทีของไทย 2.ทรัพย์สินทางปัญญา ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมยาและเกษตรกรรายย่อย โดยหารือแนวทางที่เหมาะสมกับบริบทไทย และเตรียมจัดประชุมเชิงลึกเพิ่มเติม 3.พลังงานและวัตถุดิบ มุ่งเน้นการผลักดันเศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด ควบคู่กับการรักษาความมั่นคงทางพลังงาน ราคาที่เหมาะสม และการแข่งขันที่โปร่งใส
“กระทรวงพาณิชย์จะนำข้อคิดเห็นและข้อห่วงใยทั้งหมดไปใช้ประกอบการกำหนดท่าทีการเจรจา โดยรอบการเจรจาครั้งที่ 7 กำหนดจัดขึ้นปลายเดือนก.ย.2568 ณ กรุงบรัสเซลส์ ซึ่งไทยตั้งเป้าเดินหน้าเจรจาให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด แต่ยังคงยึดหลัก “ความเร็วที่มาพร้อมคุณภาพ” เพื่อให้ข้อตกลงครั้งนี้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ประกอบการ เกษตรกร และประชาชนไทยทุกกลุ่มอย่างแท้จริง”นายฉันทวิชญ์กล่าว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง