กรมทรัพย์สินทางปัญญาหารือผู้บริหารสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต สานต่อความร่วมมือผลักดันสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นวัตถุดิบทำอาหารในหลักสูตรการเรียน การสอน ทั้งอาหารไทย อาหารนานาชาติ และขนม เผยมีให้เลือกกว่า 200 รายการ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้หารือกับนายเจเรมี โลร็องต์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการร่วมค้า และคุณสุชาดา สถาปิตานนท์ ครูใหญ่ของสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ซึ่งเป็นสถาบันสอนทำอาหารที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงจากประเทศฝรั่งเศส เพื่อสานต่อความร่วมมือในการยกระดับวัตถุดิบที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สู่วงการอาหารระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้เปิดตัววัตถุดิบ GI ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน พริกไทยตรัง รวมถึงข้าวและผลไม้ GI ไทยอีกหลายรายการในหลักสูตรศิลปะการประกอบอาหารจากพืช (Plant-Based Culinary Arts) ของสถาบัน เมื่อช่วงกลางปี 2568 ที่ผ่านมา
โดยผลการหารือ สถาบันได้ให้ความสนใจที่จะบูรณาการวัตถุดิบ GI ไทยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนในทุกหลักสูตรของสถาบัน ไม่จำกัดแค่เฉพาะหลักสูตรอาหารไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลักสูตรอาหารนานาชาติ หลักสูตรด้านศิลปะอาหารและการทำขนมประเภทต่าง ๆ โดยจะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปพร้อมกับการฝึกประสบการณ์จริง เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนเชฟจากทั่วโลก ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญในแวดวงอาหารทั้งในและต่างประเทศ ได้สัมผัสถึงคุณภาพวัตถุดิบ GI ไทย และเกิดแรงบันดาลใจในการต่อยอดสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ผสมผสานอัตลักษณ์ของวัตถุดิบจากหลากหลายวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ สถาบัน ได้เชิญกรมร่วมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ GI ไทย ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบัน อาทิ กิจกรรม Open House บอกเล่าเรื่องราววัตถุดิบ GI กิจกรรมเวิร์กชอปอาหารไทยสมัยใหม่และการนำวัตถุดิบ GI ไปใช้รังสรรค์เมนูอาหารระดับ Fine Dining ซึ่งจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์สินค้า GI ไทย สร้างคุณค่าให้กับชุมชนผู้ผลิต และขยายโอกาสสู่ตลาดสากลได้อย่างแท้จริง
“กรมยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือกับสถาบันตามแนวทางที่ได้หารือกัน โดยกรมมีผู้ประกอบการ GI ที่มีศักยภาพ และมีสินค้า GI ที่มีคุณภาพและมีความพร้อมที่จะส่งให้สถาบันใช้เป็นวัตถุดิบในหลักสูตรการเรียนการสอน ซึ่งปัจจุบันสินค้าไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI มีทั้งสิ้น 246 รายการ ในจำนวนนี้ เป็นสินค้าในกลุ่มอาหารและผลิตผลทางการเกษตรกว่า 200 รายการ หรือคิดเป็น 82% ของสินค้า GI ไทยทั้งหมด ล้วนเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันเกิดจากปัจจัยด้านภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และภูมิปัญญาการผลิตที่สืบทอดกันมายาวนาน ส่งผลให้สินค้า GI ไทยมีคุณภาพโดดเด่นและมีศักยภาพที่จะนำไปต่อยอดได้หลายมิติ ทั้งการพัฒนาเมนูอาหาร การออกแบบหลักสูตร
ด้านศิลปะอาหาร รวมถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นคุณค่าของวัตถุดิบไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นางอรมนกล่าว
ทั้งนี้ กรมยังได้เชิญชวนสถาบัน ร่วมจัดกิจกรรมสาธิตการทำอาหาร (Cooking Show) ในบูธ GI Pavilion ในงาน THAIFEX–Anuga Asia ปี 2569 เพื่อร่วมถ่ายทอดศักยภาพวัตถุดิบ GI ไทยสู่สายตาผู้ประกอบการ ผู้ค้า และผู้เข้าชมงานจากนานาประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน สินค้า GI ไทยทั้ง 246 รายการ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไปแล้วกว่า 114,359 ล้านบาทต่อปี

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

