กรมการค้าต่างประเทศเดินหน้าติวเข้มผู้ประกอบการ รับมือมาตรการภาษีสหรัฐฯ กฎเกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้า และการป้องกันการสวมสิทธิ์ เพื่อให้สินค้าไทยยังคงขีดความสามารถในการแข่งขันในการส่งออกไปสหรัฐฯ และตลาดโลก ยันเดินหน้าจัดให้ความรู้ต่อเนื่อง กระจายทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้เดินหน้าสร้างความพร้อมในการรับมือมาตรการภาษี กฎเกณฑ์ด้านถิ่นกำเนิดสินค้า และการป้องกันการสวมสิทธิ์ ให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้จัดสัมมนาเชิงวิชาการ “RVC–Transshipment : การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการกับหลักเกณฑ์ใหม่ของสหรัฐฯ” เป็นครั้งที่ 3 ผ่านทางออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงทุกกลุ่มอุตสาหกรรม หลังจากได้จัดรอบที่ 1 และ 2 ร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ไปแล้ว
โดยการสัมมนาครั้งนี้ มีกลุ่มอุตสาหกรรมเข้าร่วมกว่า 200 ราย โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการส่งออก อาทิ เหล็ก อลูมิเนียม ยานยนต์ อาหารแปรรูปแช่แข็ง บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งกรมได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการการค้าของสหรัฐฯ การเตรียมความพร้อมในการปรับตัวต่อกฎระเบียบใหม่ แนวทางการปฏิบัติตามกฎถิ่นกำเนิดสินค้าและขั้นตอนการขอตรวจถิ่นกำเนิดที่ถูกต้อง

“กรมมั่นใจว่า ความรู้ที่ได้รับจากการสัมมนารอบนี้ จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ผู้ประกอบการ ส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบหรือถูกปฏิเสธสิทธิประโยชน์ทางการค้า และสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่สินค้าไทยในตลาดต่างประเทศ และยังช่วยยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน และสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ให้เติบโตได้ต่อไป”นางอารดากล่าว
ทั้งนี้ กรมมีแผนเดินหน้าจัดสัมมนา RVC–Transshipment อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายองค์ความรู้ไปยังผู้ประกอบการในหลายภาคธุรกิจให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อสนับสนุนภาคเอกชนไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ตามนโยบายของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งช่วยผู้ประกอบการไทยเตรียมความพร้อมในการรับมือมาตรการภาษีและกฎเกณฑ์ด้านถิ่นกำเนิดสินค้า การป้องกันการสวมสิทธิ์ ที่จะมีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดสหรัฐฯ และตลาดโลก

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

