กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัดกิจกรรม “Openhouse & Sourcing Forum” เชิญ Tmall มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม และเชิญทูตพาณิชย์เซี่ยงไฮ้ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล มาให้ความรู้การทำตลาดออนไลน์ในจีน ข้อมูลร้าน TOPTHAI เพิ่มโอกาสขายออนไลน์ในจีน เผย ม.ค.69 เตรียมร่วม KOL จัด Live Commerce กระตุ้นยอดขายสินค้าไทยด้วย
นางสุภาพร สุขมาก รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า DITP โดยสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ได้จัดกิจกรรม “Openhouse & Sourcing Forum” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Live Commerce ผ่าน Influencer เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้เชิญ Tmall มาให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม และเชิญนายสกรรจ์ แสนโสภา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ และนายวุฒิศักดิ์ กาญจนาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล มาให้ความรู้เกี่ยวกับการค้า เทรนด์ตลาด ช่องทางการตลาดออนไลน์ในจีน และข้อมูลร้าน TOPTHAI ที่เปิดในแพลตฟอร์ม Tmall
ทั้งนี้ ในการจัดงานดังกล่าว นอกจากให้ความรู้เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Tmall การเปิดร้าน TOPTHAI การทำตลาดออนไลน์ในจีนแล้ว ยังได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 30 คู่ โดยมั่นใจว่าจะช่วยยกระดับสินค้าไทย สร้างความมั่นใจต่อยอดสินค้าไทยที่มีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT , TTM (Thailand Trust Mart) และ PM Awards ให้มีโอกาสในตลาดออนไลน์จีนได้เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน DITP มีแผนที่จะผลักดันแบรนด์สินค้าไทยที่มีคุณภาพ ให้สามารถขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์สู่ตลาดจีน โดยใช้กลไกการ Live Commerce ร่วมกับ KOL ในตลาดจีน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภค และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจีน ในช่วงวันที่ 15–25 ม.ค.2569 ควบคู่กับการรักษากระแสการยอมรับสินค้าไทย และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สินค้าไทยในตลาดจีน ซึ่งจะช่วยการกระตุ้นการส่งออก และการสร้างรายได้เข้าประเทศ
ปัจจุบัน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีความร่วมมือกับพันธมิตรอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์มชั้นนำ ใน 9 ตลาดทั่วโลก อาทิ Tmall, Bigbasket, Klangthai, Shopee, Rakuten, LetsTango และ Amazon เพื่อเปิดตลาดต่างประเทศให้กับผู้ประกอบการ SME ไทย ภายใต้โครงการ TOPTHAI หรือร้านค้าปลีกออนไลน์ ซึ่งนับเป็นก้าวใหม่ที่ช่วยลดอุปสรรคการส่งออก และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดโลก และโครงการดังกล่าวเข้าสู่ปีที่ 5 มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมกว่า 2,400 แบรนด์ สร้างมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

