​ดัชนีราคาส่งออก ต.ค.68 เพิ่ม 0.6% แรงซื้อทองคำ อิเล็กทรอนิกส์ อาหารหนุน

img

สนค.เผยดัชนีราคาส่งออก เดือน ต.ค.68 เพิ่มขึ้น 0.6% จากความต้องการสินค้าทองคำ อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และการบริโภคที่เพิ่มขึ้นช่วงปลายปี ส่วนดัชนีราคานำเข้า เพิ่ม 3.1% เริ่มชะลอตัวจากสินค้าเชื้อเพลิงที่ราคาลดลง สินค้าอุปโภคบริโภคชะลอตัว แต่ยังมีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมาใช้ในการผลิตในประเทศและส่งออก คาดเดือน พ.ย.68 ยังขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออก เดือน ต.ค.2568 เท่ากับ 111.7 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.6% ตามคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มสินค้าทองคำ อิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร ประกอบกับความต้องการบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปลายปี ส่วนดัชนีราคานำเข้า เท่ากับ 116.6 เพิ่มขึ้น 3.1% แต่เริ่มชะลอตัวลง จากราคาสินค้าเชื้อเพลิงที่ลดลง ความต้องการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคชะลอตัว แต่ยังมีความต้องการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าในประเทศและส่งออก

สำหรับรายละเอียดดัชนีราคาส่งออก ที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มของหมวดสินค้าอุตสาหกรรม 2.0% ได้แก่ ทองคำ ตามความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ตามความต้องการใช้งานเพื่อสนับสนุนการทำงานของ AI และ Data Center และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ตามต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทองแดง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องปรับอากาศที่ราคาสูงขึ้น และหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่ม 0.9% ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ตามการขยายตัวของตลาดอาหารสำเร็จรูปในตลาดหลัก อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และยุโรป และอาหารสัตว์เลี้ยง ตามความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่ขยายตัวต่อเนื่อง

ส่วนหมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกลดลง ประกอบด้วย หมวดสินค้าเกษตรกรรม ลด 6.6% ได้แก่ ข้าว ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และยางพารา ตามปริมาณผลผลิตในหลายประเทศที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้มีการแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ลด 10.3% โดยเฉพาะน้ำมันสำเร็จรูป ตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง



ทางด้านดัชนีราคานำเข้าที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค 6.8% แต่เริ่มลดลง โดยมีสินค้าที่นำเข้าเพิ่ม ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และเครื่องประดับอัญมณี ตามความต้องการนำเข้าสินค้าจำเป็นและสินค้าฟุ่มเฟือยชะลอตัว จากกำลังซื้อประชาชนที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เพิ่ม 6.7% โดยเฉพาะทองคำ ราคายังทรงตัวในระดับสูง ตามความต้องการสำรองทองคำของธนาคารกลางหลายแห่ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ตามทิศทางราคาตลาดโลกของโลหะสำคัญเพิ่มขึ้น อาทิ ทองแดง และอะลูมิเนียมและปุ๋ย ราคายังทรงตัวสูงเมื่อเทียบกับปีก่อน ตามความต้องการใช้งานในภาคการเกษตร

หมวดสินค้าทุน เพิ่ม 4.5% ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การทดสอบ โดยการนำเข้าขยายตัวชะลอลงตามความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เพิ่ม 0.1% ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และส่วนประกอบและอุปกรณ์จักรยานยนต์ ตามความต้องการนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อประกอบการผลิตในประเทศ และส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่หมวดสินค้าเชื้อเพลิง ลด 10% โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากกลุ่มโอเปกพลัสยังคงเพิ่มกําลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานส่วนเกิน

นายนันทพงษ์กล่าวว่า ดัชนีราคาส่งออกและดัชนีราคานำเข้า เดือน พ.ย.2568 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางสถานการณ์การค้าโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ดัชนีขยายตัว มาจากความต้องการบริโภคสินค้าเกษตรแปรรูป และอาหารในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยียังเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก ตามการขยายตัวของ AI และ Data Center รวมถึงวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าหลัก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังมีแนวโน้มยืดเยื้อในหลายภูมิภาค ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าและมาตรการภาษีของประเทศคู่ค้าสำคัญ ราคาสินค้าเกษตรสำคัญบางกลุ่ม ยังเผชิญกับปัญหาอุปทานส่วนเกิน และการแข่งขันทางด้านราคา การแข็งค่าของเงินบาท และการเร่งนำเข้าสินค้าของคู่ค้าต่างประเทศอาจชะลอตัว จากการเร่งนำเข้าไปจำนวนมากก่อนหน้านี้ ทำให้สต๊อกสินค้าอยู่ในระดับสูง

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง