​“ศุภจี”ชูมาตรฐานจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ ดันไทยศูนย์กลางสุขภาพ-การแพทย์

img

“ศุภจี”ร่วมกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน FERCAP 25th Anniversary Celebration & Welcome Dinner Reception ที่มีผู้เข้าร่วมงานจากหลากหลายประเทศ เห็นด้วยกับการขับเคลื่อนมาตรฐานจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ เผยไทยสามารถนำมาใช้ในการสร้างศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพและการแพทย์นานาชาติ

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน “FERCAP 25th Anniversary Celebration & Welcome Dinner Reception” จากหลายประเทศ ร่วมกับศาสตราจารย์เคนจิ ฮิรายามะ ประธาน FERCAP (Forum for Ethical Review Committees in Asia and the Western Pacific) และ ศ.เกียรติคุณ ดร.พญ.จันทรา กาบวัง เหล่าถาวร ประธานมูลนิธิ SIDCER-FERCAP ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 พ.ย.2568 ที่ผ่านมา ว่า งานนี้ จัดโดย SIDCER-FERCAP (ซิดเคอร์-เฟอร์แคบ) องค์กรสากลที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ของการขับเคลื่อนมาตรฐานจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ โดยมีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมประชุมวิชาการนานาชาติ 25th International FERCAP Conference 2025 เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองที่หลากหลาย รวมถึงทบทวนแนวปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์

โดยประเทศไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานเฉลิมฉลองในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งของเครือข่ายพันธมิตรที่ช่วยยกระดับการส่งเสริมจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ และขอแสดงความยินดีและชื่นชมบทบาทของ SIDCER–FERCAP ตลอด 25 ปีที่ผ่านมาว่าเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับภูมิภาค โดยมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างระบบตรวจสอบและรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ รวมทั้งช่วยส่งเสริมความร่วมมือในการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิจัยและนักวิชาการระหว่างประเทศ



นางศุภจีกล่าวว่า การขับเคลื่อนมาตรฐานจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ดังกล่าว สามารถนำมาพัฒนาแนวทางการดำเนินงานของไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างศักยภาพในการแข่งขันสำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรของไทย และช่วยในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพและการแพทย์นานาชาติ (Medical Hub) ซึ่งอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) ของประเทศ โดยมีแนวทางการดำเนินการผ่าน 3 มิติสำคัญ ประกอบด้วย

มิติที่ 1 ยกระดับความเชื่อมั่น (Reputation) สร้างชื่อเสียงให้ไทยเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานเกี่ยวกับประเด็นจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ และมีความน่าเชื่อถือสำหรับการวิจัยทางคลินิกและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
         
มิติที่ 2 หนุนเศรษฐกิจมูลค่าสูง (High-Value Growth) สนับสนุนและผลักดันการเติบโตของสินค้าและบริการเป้าหมายที่มีมูลค่าสูง อาทิ ชีวเภสัชภัณฑ์ ยาสมุนไพร เทคโนโลยีการแพทย์ บริการดูแลสุขภาพดิจิทัล และนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์
         
มิติที่ 3 สร้างความไว้วางใจให้นักลงทุน (Trust for Investment) แสดงให้นานาชาติเห็นว่าประเทศไทยยึดมั่นในมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน
         
ทั้งนี้ นางศุภจีสรุปในตอนท้ายเป็นภาษาอังกฤษว่า Research creates Value, but Ethics creates Trust And Trust is the only currency that truly matters. แปลได้ว่า แม้งานวิจัยจะช่วยสร้างมูลค่า แต่จริยธรรมจะช่วยสร้างความไว้วางใจ และความไว้วางใจคือสกุลเงินเดียวที่มีค่าอย่างแท้จริงในโลกการค้าปัจจุบัน

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง