“อรมน”ต้อนรับผู้แทนจากสมาคมการบริหารการอนุญาตให้ใช้สิทธิ (LES Thailand) หารือความร่วมมือการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ ชวนเข้าร่วมเป็นพันธมิตรการจัด 2 งานใหญ่ในปี 69 และการผลักดันทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหลักประกันทางการเงิน
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากสมาคมการบริหารการอนุญาตให้ใช้สิทธิ (ประเทศไทย) หรือ Licensing Executives Society Thailand (LES Thailand) โดยได้หารือถึงแผนงานสำคัญด้านการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ที่กรมจะดำเนินการในปี 2569 ทั้งการจัดงาน Thailand Character and Content Licensing Expo เพื่อจัดแสดงผลงานคาแรกเตอร์และดิจิทัลคอนเทนต์ไทย และเชื่อมโยงการเจรจาจับคู่ธุรกิจกับนักลงทุนและผู้ประกอบการระดับนานาชาติ งานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (IP Fair 2026) ที่จะจัดแสดงผลงานสร้างสรรค์และนวัตกรรมของไทย และโครงการ IP Financing เพื่อผลักดันทรัพย์สินทางปัญญาสู่การเป็นหลักประกันทางการเงิน

ทั้งนี้ กรมได้เน้นย้ำว่ากิจกรรมเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้นวัตกร ผู้ประกอบการ และนักลงทุน สามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สร้างเครือข่ายความร่วมมือ และต่อยอดโอกาสทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้เชิญชวนให้สมาคมฯ เข้ามามีส่วนร่วมเป็นพันธมิตรสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมดังกล่าว
         
​

นางอรมนกล่าวว่า กรมเล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของ LES Thailand ในการส่งเสริมให้ทรัพย์สินทางปัญญาไทยถูกนำไปใช้เชิงพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นกลไกประสานเชื่อมโยงผู้คิดสร้างสรรค์ ผู้ใช้ประโยชน์ และผู้ลงทุนเข้าด้วยกัน ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของกรม ที่มุ่งส่งเสริมให้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยยืนยันว่ากรมยินดีสนับสนุนและร่วมมือกับสมาคมฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ในการสร้างมูลค่าได้อย่างยั่งยืน

“กรมอยากให้ LES Thailand มีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมสำคัญของกรมในหลายมิติ ทั้งการให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ การเผยแพร่กรณีศึกษาความสำเร็จจากการบริหารจัดการสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ ตลอดจนร่วมพัฒนามาตรฐานและแนวทางการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและสถาบันการเงิน”

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าความร่วมมือระหว่างกรมและ LES Thailand ในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศ และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมไทยให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์และเทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสูงต่อการสร้างมูลค่าและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของประเทศ