กรมการค้าภายในลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวซื้อข้าวเก็บสต๊อก หลังดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.68 ที่ผ่านมา เผยปีนี้มีโรงสีเข้าร่วม 217 ราย จาก 44 จังหวัดทั่วประเทศ เป้าซื้อข้าวเก็บสต๊อก 4 ล้านตัน เฉพาะอุบลราชธานี มี 11 ราย วงเงินสินเชื่อรวม 1,350 ล้านบาท เป้าซื้อข้าว 1.46 แสนตัน เผยยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบเครื่องชั่ง เครื่องวัดความชื้นด้วย ป้องกันเกษตรกรโดนเอาเปรียบ
น.ส.ญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามการรับซื้อข้าวเปลือกในโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมได้เริ่มดำเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ย โดยพิจารณาคุณสมบัติของโรงสีที่เข้าสมัครมาทั้งหมดและให้เริ่มรับซื้อตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2568 ซึ่งเริ่มเร็วกว่าปีก่อน เพื่อให้ผู้ประกอบการและโรงสีสามารถรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรได้ทันก่อนผลผลิตออกสู่ตลาด
ทั้งนี้ ภายใต้โครงการดังกล่าว รัฐจะชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา 3% เป็นระยะเวลา 2–6 เดือน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องในการกู้เงินจากสถาบันการเงินมารับซื้อและเก็บสต็อกข้าว โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการโรงสีให้ความสนใจเข้าร่วมมากถึง 217 ราย จาก 44 จังหวัดทั่วประเทศ รวมเป้าหมายดูดซับข้าวเปลือกกว่า 4 ล้านตัน เพื่อชะลอการจำหน่ายผลผลิตออกตลาดในช่วงต้นฤดูกาล และช่วยสร้างเสถียรภาพราคาข้าว

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 11 ราย รวมวงเงินสินเชื่อกว่า 1,350 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณข้าวกว่า 146,400 ตัน โดยหนึ่งในโรงสีหลัก คือ โรงสีข้าวยิ่งไพบูลย์ (2007) จำกัด ได้รับจัดสรรวงเงินสินเชื่อ 370 ล้านบาท เพื่อดูดซับข้าวกว่า 30,000 ตัน จากเกษตรกรในพื้นที่ ถือเป็นโรงสีที่มีความพร้อมทั้งด้านศักยภาพการผลิตและมาตรฐานคุณภาพได้รับการรับรอง GMP , ISO 9001:2015 และ Halal มีกำลังการสีข้าวกว่า 200 ตันต่อวัน
นอกจากนี้ กรมยังเดินหน้าสร้างความเป็นธรรมให้แก่พี่น้องเกษตรกร โดยได้สั่งการให้สำนักงานชั่งตวงวัดส่วนภูมิภาคลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุกและเครื่องวัดความชื้นของผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่มีผลโดยตรงต่อราคารับซื้อ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรว่าการชั่งน้ำหนักและวัดความชื้นมีความเที่ยงตรง โปร่งใส และตรวจสอบได้ ส่วนเกษตรกร ขอให้เก็บเกี่ยวข้าวในช่วงเวลาที่เหมาะสม และให้ข้าวมีความชื้นมาตรฐาน 15% เพื่อให้จำหน่ายข้าวได้ราคาดีที่สุด
นายอานุภาพ ภรณ์พิริยะนิยม อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ขอบคุณกรมการค้าภายใน ที่ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการชดเชยดอกเบี้ย ซึ่งช่วยเสริมกำลังให้ผู้ประกอบการโรงสีสามารถรับซื้อข้าวจากเกษตรกรได้มากขึ้น และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการชะลอผลผลิตข้าวเปลือกไม่ให้ออกสู่ตลาดพร้อมกัน เพราะหากดูแลไม่ทัน จะกระทบต่อราคาทั้งข้าวเปลือกและข้าวสาร แต่การมีโครงการชดเชยดอกเบี้ยช่วยให้โรงสีสามารถบริหารสต็อกได้ดีขึ้น เกษตรกรขายได้ในราคาที่เหมาะสม และทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

