กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ “ทุเรียนชุมพร” สินค้า GI ลำดับที่ 6 ของจังหวัด มั่นใจสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน เผยมีจุดเด่น เนื้อหนาเนียน กลิ่นหอมไม่ฉุน รสชาติหวานมัน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ คือ ทุเรียนชุมพร ซึ่งเป็นสินค้า GI ลำดับที่ 6 ของจังหวัดชุมพร ต่อจากข้าวเหลืองปะทิวชุมพร กล้วยเล็บมือนางชุมพร กาแฟเขาทะลุ กาแฟถ้ำสิงห์ชุมพร และกล้วยหอมทองละแม โดยจะช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่าเป็นสินค้าที่มีความพิเศษ มีอัตลักษณ์ของชุมชนที่มีความเชื่อมโยงกับลักษณะทางภูมิศาสตร์ (ดิน น้ำ อากาศ และภูมิปัญญาท้องถิ่นของพื้นที่) และช่วยอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน สอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Win ของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับการเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SME ไทย โดยอาศัย GI เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชน
สำหรับทุเรียนชุมพร เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่มีลักษณะผลกลมรี ร่องพูหนามชัดเจน เปลือกบาง เนื้อหนาเนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน มีเส้นใยเหนียวนุ่ม รสชาติหวานมัน กลิ่นหอมไม่ฉุน เม็ดเล็กและลีบ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่แตกต่างจากทุเรียนพันธุ์เดียวกันในพื้นที่อื่น โดยจังหวัดชุมพรถือเป็นแหล่งปลูกทุเรียนที่สำคัญของประเทศ มีการปลูกมาตั้งแต่ปี 2480 และขยายพื้นที่ปลูกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีดินที่อุดมสมบูรณ์และสภาพอากาศที่เหมาะสมจากอิทธิพลลมทะเลและมรสุม ทำให้ทุเรียนชุมพรมีรสชาติและคุณภาพโดดเด่นเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการปลูกทุเรียนชุมพรกว่า 1,449 ราย มีปริมาณผลผลิตกว่า 222,000 ตันต่อปี ที่จังหวัดมีการจัดงานประจำปี “วันทุเรียนชุมพร” เพื่อส่งเสริมการตลาดและสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคภายในประเทศ รวมทั้งส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศสำคัญ เช่น จีน เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ทำรายได้สู่จังหวัดรวมกว่า 31,851 ล้านบาทต่อปี
“การขึ้นทะเบียนทุเรียนชุมพร สะท้อนถึงความสำเร็จของการพัฒนาและคุ้มครอง GI ของไทย ซึ่งกรมมุ่งมั่นทำหน้าที่ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาประเภท GI เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งในด้านการขึ้นทะเบียน คุ้มครองสิทธิ์ และการส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล กรมไม่เพียงคุ้มครองชื่อเสียงของสินค้าเท่านั้น แต่ยังเดินหน้าผลักดันให้มีการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพและการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) เพื่อให้สินค้า GI ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก พร้อมส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการขยายช่องทางจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศต่อไป”นางอรมนกล่าว

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

