“ศุภจี” เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีไทย ขึ้นเวทีอาเซียน โชว์นโยบายเร่งเครื่องเศรษฐกิจ มุ่งสร้างผลลัพธ์ระยะสั้น แต่มีผลต่อเนื่องระยะยาว ทั้งการจัดทำโครงการคนละครึ่ง พลัส การปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน การสนับสนุน SME และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ส่วนระยะยาว ใช้จุดแข็งด้านการเกษตรดันไทยเป็นศูนย์กลางอาหารภูมิภาค ดันเอกชนปรับตัวสู่มาตรฐาน ESG ลุยเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาค
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ได้เป็นผู้แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นเวทีสนทนาแสดงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย ซึ่งจัดโดยสภาธุรกิจอาเซียน ให้กับผู้เข้าร่วมงานที่มาจากภาคธุรกิจต่าง ๆ ในอาเซียนมากกว่า 500 คน โดยได้ใช้โอกาสนี้ ชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่มุ่งสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมในระยะสั้น แต่มีผลต่อเนื่องในระยะยาว เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและวางรากฐานการเติบโตใหม่ของประเทศ
โดยมาตรการสำคัญที่รัฐบาลได้ดำเนินการ อาทิ โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ที่จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน 20 ล้านคน และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ การปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน เพื่อช่วยลดภาระหนี้ การสนับสนุน SME ในทุกรูปแบบ ทั้งการพัฒนาธุรกิจและการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ด้วยโครงการ “Fast Plus Pass” ที่ลดขั้นตอนทางราชการและเร่งการอนุมัติของบีโอไอ เพื่อให้นักลงทุนตั้งกิจการในไทยได้รวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีเป้าหมายระยะยาว โดยจะใช้จุดแข็งของไทยในด้านการเกษตร สู่การเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาค การส่งเสริมภาคเอกชนปรับตัวสู่มาตรฐาน ESG และเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีอุตสาหกรรมอนาคตที่จะเป็นหัวใจในการยกขีดความสามารถของประเทศ ได้แก่ ดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง ยานยนต์ยุคใหม่ อาหารแห่งอนาคต พลังงานสะอาด เทคโนโลยีชีวภาพ และวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
ขณะเดียวกัน ไทยยังมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์เชื่อมโยงจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบทบาทของไทยในฐานะประธานการเจรจาจัดทำความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA) ซึ่งจะยกระดับอาเซียนให้เป็นภูมิภาคแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีความเชื่อมโยง แข็งแกร่ง และยืดหยุ่น
อย่างไรก็ตาม นางศุภจีได้ย้ำว่า แม้รัฐบาลจะมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งจำกัด แต่ประเทศไทยมีแผนเศรษฐกิจที่ชัดเจน และเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในการสร้าง “ชัยชนะทางเศรษฐกิจระยะสั้น” โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเร่งด่วนให้กับประชาชน ควบคู่กับการสร้างรากฐานเศรษฐกิจอนาคต เพื่อให้ไทยกลับมาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและเปิดกว้างของภูมิภาคอีกครั้ง

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

