คนไทยหวังคนละครึ่งพลัส-ท่องเที่ยวฟื้น ดันดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ย.68 เพิ่ม

img

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย.68 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 49.4 เหตุประชาชนมีความหวังจากมาตรการคนละครึ่งพลัส และการท่องเที่ยวฟื้นตัวช่วงปลายปี ที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ยังต้องระวังเรื่องหนี้สิน ภัยธรรมชาติ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ส่งออกชะลอ บาทแข็ง เป็นปัจจัยกดดัน
         
นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 5,793 ราย ครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน เดือน ก.ย.2568 อยู่ที่ระดับ 39.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 39.2 ในเดือนก่อนหน้า และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) อยู่ที่ระดับ 56.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 53.7 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม อยู่ที่ระดับ 49.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 47.9
         
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค พบว่า ด้านเศรษฐกิจไทยส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 47.90 รองลงมา คือ มาตรการของภาครัฐ ร้อยละ 12.84 การเมือง ร้อยละ 9.93 สังคม ความมั่นคง ร้อยละ 9.15 เศรษฐกิจโลก ร้อยละ 8.16 ราคาสินค้าเกษตร ร้อยละ 6.51 ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 2.16 อื่น ๆ ร้อยละ 1.97 และภัยพิบัติ โรคระบาด ร้อยละ 1.38 ตามลำดับ
         
“ความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมที่เพิ่มขึ้น ยังอยู่ในระดับที่ไม่เชื่อมั่น แต่ก็ใกล้จะเชื่อมั่น เพราะผู้บริโภคมีความหวังจากมาตรการรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งพลัส ที่จะเริ่มลงทะเบียนในเดือน ต.ค.2568 การท่องเที่ยวขยายตัวช่วงปลายปี ที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและสนับสนุนธุรกิจในประเทศ โดยยังต้องระวังเรื่องภาระหนี้สิน ภัยธรรมชาติ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตและส่งออก และเงินบาทแข็งค่า จะเป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่น”
         


ทั้งนี้ หากดูดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจำแนกรายภูมิภาค จำนวน 5 ภูมิภาค พบว่า ดัชนีอยู่ในช่วงเชื่อมั่น 1 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 51.9 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 49.9 ภาคกลาง อยู่ที่ระดับ 48.8 และ ภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 46.9 ซึ่งแม้อยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ยกเว้นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของภาคใต้ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 48.7
         
ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจำแนกรายอาชีพ จำนวน 7 อาชีพ พบว่า มี 3 กลุ่มอาชีพที่ดัชนีอยู่ในช่วงเชื่อมั่น ได้แก่ พนักงานของรัฐ อยู่ที่ระดับ 53.3 นักศึกษา อยู่ที่ระดับ 52.3 และผู้ประกอบการ อยู่ที่ระดับ 50.5 ขณะที่มี 4 กลุ่มอาชีพที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น โดยพนักงานเอกชน อยู่ที่ระดับ 49.1 อาชีพรับจ้างอิสระ อยู่ที่ระดับ 47.5 เกษตรกร อยู่ที่ระดับ 48.1 และไม่ได้ทำงาน บำนาญ อยู่ที่ระดับ 48.5 สำหรับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังอยู่ต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น โดยอยู่ที่ระดับ 43.0 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมพิจารณามาตรการที่เหมาะสมในการดูแลค่าครองชีพของประชาชนและสนับสนุนภาคธุรกิจให้สามารถปรับตัวและรักษาความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนขยายตลาดส่งออก สร้างโอกาสทางการค้าใหม่ ๆ รวมถึงการเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อเปิดตลาดการค้าใหม่และเพิ่มศักยภาพทางการค้าของไทยในระยะยาว ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการต่อไป

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง