​อาเซียนเตรียมลงนามความตกลงอัปเกรดการค้าสินค้า ช่วงประชุมผู้นำ ต.ค.นี้

img

คณะมนตรีเขตการค้าเสรีอาเซียน เห็นชอบการเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน เตรียมลงนามพิธีสารแก้ไขความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (Upgraded ATIGA) ในช่วงการประชุมผู้นำ ต.ค.นี้ พร้อมเห็นพ้องป้องกันการฉ้อฉลถิ่นกำเนิดสินค้า พัฒนาระบบ ASEAN Single Window อำนวยความสะดวกการค้าในภูมิภาค
         
นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เป็นผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีเขตการค้าเสรีอาเซียน ครั้งที่ 39 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมผลักดันการดำเนินการด้านการค้าสินค้าของอาเซียน อาทิ การสรุปผลการเจรจาความตกลงยกระดับการค้าสินค้าของอาเซียน (Upgraded ATIGA) การปรับโอนพิกัดศุลกากรของตารางการลดภาษีของทุกประเทศให้สอดคล้องกับระบบพิกัดศุลกากรฉบับล่าสุดขององค์การศุลกากรโลก การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานภายในภูมิภาค และการต่อต้านการฉ้อฉลถิ่นกำเนิดสินค้า เพื่อเป็นหลักประกันถึงถิ่นกำเนิดของสินค้าภายในภูมิภาคอย่างแท้จริง
         
ทั้งนี้ อาเซียนได้สรุปผลการเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าอาเซียนแล้ว และจะลงนามพิธีสารแก้ไขความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (Upgraded ATIGA) ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนในเดือน ต.ค.2568 โดยการแก้ไขความตกลงดังกล่าว จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนให้รองรับรูปแบบการค้าใหม่ ๆ อาทิ การค้าในสภาวการณ์วิกฤต การค้าที่สนับสนุนความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน รวมไปถึงการเพิ่มกลไกในการแก้ไขประเด็นข้อพิพาททางการค้าของอาเซียน โดยตกลงจะเร่งรัดกระบวนการภายในของทุกประเทศเพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้ในปี 2570
         


ขณะเดียวกัน อาเซียนได้เห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานโลก และป้องกัน ปราบปรามการค้าผิดกฎหมาย การหลีกเลี่ยงมาตรการ และการฉ้อฉลถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่โปร่งใสและความมั่นคงทางชายแดน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างหลักประกันว่าสินค้าที่ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ มีถิ่นกำเนิดสินค้าภายในอาเซียน
         
นอกจากนี้ อาเซียนให้ความสำคัญกับการพัฒนาผ่านระบบ ASEAN Single Window เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าภายในภูมิภาค โดยปัจจุบันสามารถเชื่อมโยงข้อมูลหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Form D) และใบขนสินค้าของอาเซียน (ASEAN Customs Declaration Document) ได้ครบทั้งสิบประเทศแล้ว และกำลังเร่งรัดการแลกเปลี่ยนข้อมูลใบรับรองสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ (e-Phyto certificate) และใบรับรองสุขภาพสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Animal Health certificate) ให้ครอบคลุมทุกประเทศสมาชิก ซึ่งขณะนี้ไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล e-Phyto certificate แล้ว และอยู่ระหว่างทดสอบระบบ e-Animal Health certificate กับอินโดนีเซีย

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง