“ฉันทวิชญ์”ร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน–อินเดีย สมัยพิเศษ ผ่านระบบทางไกล ผลักดันทบทวนความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน–อินเดีย (AITIGA) เผยล่าสุดคืบหน้าแล้ว 40% และมีความชัดเจนในประเด็นการลดอุปสรรคทางศุลกากร ความร่วมมือ MSME มาตรฐานสุขอนามัยพืชและสินค้าเกษตร การเปิดตลาดเพิ่มเติม คาดหากสำเร็จ จะช่วยสร้างโอกาสทางการค้า ไทยจะเจาะตลาดอินเดียได้เพิ่มขึ้น
         
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ด้รับมอบหมายจากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน–อินเดีย สมัยพิเศษ (Special AEM on AITIGA Review) ผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อผลักดันการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน–อินเดีย (AITIGA) ให้เกิดความคืบหน้า โดยปัจจุบันคืบหน้าแล้วประมาณ 40% แม้ที่ผ่านมา จะเผชิญความท้าทายจากท่าทีที่แตกต่างกันระหว่างอาเซียนและอินเดีย แต่ล่าสุดมีพัฒนาการชัดเจนในหลายประเด็น เช่น การลดอุปสรรคทางศุลกากร การร่วมมือด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) มาตรการด้านสุขอนามัยพืชและสินค้าเกษตร รวมถึงการเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดจะช่วยให้การค้าโปร่งใส เป็นธรรม และเชื่อมโยงกันมากขึ้น
         
ทั้งนี้ ไทยได้ย้ำจุดยืนว่า พร้อมผลักดันให้การเจรจาจบลงอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2568 เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์โดยตรง โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าไปอินเดียที่มีโอกาสเติบโตสูง ทั้งสินค้าเกษตร อัญมณี เครื่องจักร และเครื่องใช้ไฟฟ้า



“การเร่งเจรจาทบทวน AITIGA ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของรัฐบาล แต่คือการสร้างโอกาสทางการค้าให้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทยเข้าถึงตลาดอินเดียได้สะดวกขึ้น ลดต้นทุน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยไทยมีศักยภาพจะขยายการส่งออกเพิ่มขึ้นอีก หากความตกลงใหม่นี้เสร็จสมบูรณ์ รวมทั้งยังช่วยต่อยอดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับอินเดียในระยะยาว”นายฉันทวิชญ์กล่าว

สำหรับการค้าระหว่างอาเซียน–อินเดีย ในปี 2567 มีมูลค่า 106,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.7% โดยอาเซียนส่งออกไปอินเดียมูลค่า 70,707 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากอินเดีย 36,127 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของอาเซียน ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เชื้อเพลิงที่ได้จากแร่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ และพลาสติกและผลิตภัณฑ์ และสินค้าสำคัญที่อาเซียนนำเข้าจากอินเดีย ได้แก่ เชื้อเพลิงที่ได้จากแร่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เคมีภัณฑ์ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ