
“จตุพร”เผยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมมือกับ “เมติคูลี่” ผลิตแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูกมือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคล ผลงานนวัตกรรมทรัพย์สินทางปัญญาไทย ส่งมอบให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบไทย-กัมพูชา เพื่อฟื้นฟูร่างการให้กับมาใช้ชีวิตได้ปกติโดยเร็ว มั่นใจสินค้าขายดีทั้งในและต่างประเทศ
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูกมือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคล ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา จำนวน 4 ราย ที่ผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็ว
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และได้เข้าเยี่ยมผู้ประสบภัยชายแดนไทย–กัมพูชา รวมถึงเข้าเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา จากนั้นได้ประสานกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ ให้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ
โดยบริษัท เมติคูลี่ จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ตอัปของไทยที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สร้างธุรกิจและสร้างคุณประโยชน์ต่อสาธารณะ เคยได้รับรางวัล Global Award สาขาเทคโนโลยีการแพทย์ จากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เมื่อปี 2567
“ความร่วมมือครั้งนี้ นอกจากจะช่วยฟื้นฟูรักษาผู้บาดเจ็บ ยังแสดงถึงศักยภาพของไทยด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ เป็นการนำทรัพย์สินทางปัญญาไทยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งในมิติสังคมและเศรษฐกิจ สอดคล้องกับนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” และปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยสะสมในประเทศที่รอการรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ในกลุ่มนี้กว่า 100,000 คน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และผลิตได้เองในประเทศ ทดแทนการนำเข้า จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและงบประมาณของรัฐ และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”นายจตุพรกล่าว
ทั้งนี้ ทราบว่าบริษัทได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตรแล้วในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป ขนาดตลาดทั้งโลกของเครื่องมือแพทย์ในกลุ่มนี้ มีมูลค่าประมาณ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถนำไปสู่การสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาวต่อไป
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง