กรมการค้าภายในส่งสายตรวจเฉพาะกิจ DIT ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อผลผลิตลำไยภาคเหนือใน 8 จังหวัด เช็กเครื่องคัดขนาดลำไยแบบตะแกรงร่อน เป็นไปตามมาตรฐาน และได้รับการรับรองหรือไม่ เพื่อดูแลและสร้างความเป็นธรรมในการซื้อขายให้กับเกษตรกร หลังผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ย้ำหากพบผู้ประกอบการใช้เครื่องชั่งไม่ผ่านการตรวจ มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
         
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ DIT ออกตรวจสอบเครื่องคัดขนาดลำไยแบบตะแกรงร่อน เพื่อดูแลความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร ที่นำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการ โรงอบลำไย และผู้ส่งออก ในช่วงที่ผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดจำนวนมาก และอาจก่อให้เกิดปัญหาในการซื้อขาย หากไม่มีการควบคุมมาตรฐานที่ชัดเจน และยังได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในพื้นที่ 8 จังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตลำไยด้วย ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก แพร่ และน่าน
         
ทั้งนี้ เครื่องคัดขนาดลำไยแบบตะแกรงร่อน ที่ได้มาตรฐานและผ่านการตรวจรับรองจากกรม จะได้รับเครื่องหมายคำรับรอง ซึ่งเป็นซีลตราครุฑ ติดไว้ 3 จุด ได้แก่ ฝาประกับเครื่อง 2 จุด และระดับน้ำ 1 จุด เพื่อป้องกันการดัดแปลงอุปกรณ์ภายหลัง พร้อมทั้งติดสติกเกอร์ตรวจสอบประจำปี โดยเครื่องที่ได้รับการรับรองจะมีอายุการใช้งานนาน 2 ปี
         


“กรมขอย้ำว่า หากผู้ประกอบการยังคงใช้เครื่องที่ไม่ได้ผ่านการตรวจรับรอง จะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 มาตรา 70 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการนำเครื่องมารับการตรวจสอบตามระเบียบ และขอให้พี่น้องเกษตรกรที่นำผลผลิตมาจำหน่าย ให้สังเกตดูเครื่องหมายรับรองดังกล่าวด้วย หากพบความผิดปกติให้แจ้งกรมทันที”นายอุดมกล่าว
         
สำหรับการลงพื้นที่ดังกล่าว เป็นไปตามนโยบาย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เข้าไปดูแลการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรให้กับเกษตรกร อย่าให้มีการเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก และช่วงนี้ เป็นช่วงที่ผลผลิตลำไย เริ่มออกสู่ตลาด กรมจึงได้เพิ่มความถี่ในการเข้าไปตรวจสอบ และจะตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง