“พาณิชย์”ดึงพลทหาร-นักโทษชั้นดี ช่วยเก็บลำไยเหนือ เร่งผู้ส่งออก-ล้งลงใต้ เปิดจุดรับซื้อ

img

กรมการค้าภายในเตรียมรับมือผลไม้ภาคเหนือ ภาคใต้ ออกสู่ตลาด ประสานกองทัพ กรมราชทัณฑ์ ขอกำลังพลทหาร นักโทษชั้นดี ออกมาช่วยเก็บลำไย แก้ปัญหาแรงงานขาด ประสานผู้ส่งออก ผู้รวบรวม ล้ง ย้ายฐานลงใต้ เร่งเปิดจุดรับซื้อ พร้อมดึงเซเว่น อีเลฟเว่นช่วย นำร่องมังคุด กระจายผ่าน 8,200 สาขา เผยหลังมีปัญหาตรงชายแดน ช่วยระบายผลไม้แล้วกว่า 1 หมื่นตัน ทั้งผ่านห้าง ภาคเอกชน หน่วยงานราชการ ยันทุกฝ่ายยินดีช่วยต่อเนื่อง   
         
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเปิดกิจกรรมผนึกกำลังช่วยเกษตรกรชาวสวนมังคุด ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven สาขานนทบุรี 41 ว่า กรมได้เตรียมแผนรับมือผลไม้ภาคเหนือ และภาคใต้ ที่กำลังจะออกสู่ตลาดไว้เรียบร้อยแล้ว หลังอีกไม่กี่สัปดาห์ ผลไม้ภาคตะวันออกจะสิ้นสุดฤดูกาล โดยในส่วนของภาคเหนือ ผลผลิตลำไย มะม่วง ลิ้นจี่ สับปะรด กำลังจะออกสู่ตลาด ได้ทำการประสานไปยังกองทัพ เพื่อขอกำลังพลทหารให้เข้ามาช่วยเก็บผลไม้แล้ว โดยเฉพาะลำไย ที่ปีนี้คาดว่าผลผลิตจะมีมาก เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร และช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งได้ประสานไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำผู้ต้องหาชั้นดี ออกมาช่วยเก็บลำไยด้วย
         
ส่วนผลไม้ภาคใต้ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ผลผลิตก็เริ่มออกสู่ตลาดเช่นเดียวกัน ได้มีการประสานผู้ส่งออก ผู้รวบรวม ล้ง ที่มีฐานรับซื้ออยู่ที่ภาคตะวันออก ให้เตรียมความพร้อมในการย้ายฐานการรับซื้อและแรงงานลงไปพื้นที่ภาคใต้โดยเร็ว เพื่อให้ทันกับช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ซึ่งขณะนี้ ได้ประสานและเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว
         
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะช่วยเร่งระบายผลผลิต โดยประสานหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้เข้ามาช่วยรับซื้อ ซึ่งล่าสุดได้ประสานความร่วมมือไปยังบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ให้เข้ามาช่วยรับซื้อมังคุดภาคตะวันออก ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงปลายฤดูกาล และบางส่วนมีปัญหาจากการที่กัมพูชาปิดด่าน ทำให้ระบายผลผลิตไม่ได้ จึงได้เข้าไปช่วยรับซื้อ โดยเบื้องต้นซื้อแล้ว 70 ตัน และจะซื้อต่อเนื่อง เพื่อนำมาจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น จำนวน 8,200 สาขาทั่วประเทศ ราคากิโลกรัม (กก.) ละ 40 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2568 นี้ รวมทั้งมีแผนที่จะซื้อมังคุดภาคใต้ ลำไยภาคเหนือ และผลไม้ชนิดอื่น ๆ เข้าไปจำหน่ายด้วย
         


ขณะเดียวกัน ในส่วนของลำไย ได้เตรียมแผนระบายผลผลิต โดยจะผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ อินเดีย ที่เป็นอีกหนึ่งตลาดที่เริ่มนิยมบริโภคลำไยไทย และตะวันออกกลาง ที่เป็นตลาดที่มีโอกาสสูง โดยจะใช้จุดขายการเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน เหมาะสำหรับบริโภคของชาวมุสลิมที่ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน รวมถึงตลาดจีน ที่จะมุ่งเจาะเมืองและมณฑลใหม่ ๆ เพราะยังมีโอกาสอีกมาก
         
นายวิทยากรกล่าวว่า สำหรับผลการช่วยเหลือเกษตรกรกระจายผลไม้ภาคตะวันออกในช่วงปลายฤดู ที่ไม่สามารถส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านจากสถานการณ์การปิดด่านชายแดน ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 10,000 ตัน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การร่วมมือกับตลาดสด 13 แห่ง ระบายผลผลิตทุเรียน จับมือบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ซื้อมังคุด ลำไย สับปะรดภูแล นำไปผลิตอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายบนเครื่องบิน จับมือบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ซื้อผลไม้จำหน่ายในห้างแม็คโคร และโลตัส จับมือห้างโก โฮเซลล์ ซื้อผลไม้ไปจำหน่าย ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดึง 40 บริษัทจดทะเบียนกลุ่ม SET50 รับซื้อผลไม้ไทย ประสานห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ช่วยรับซื้อไปจำหน่าย และดึงหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยรับซื้อ ซึ่งทุกภาคส่วน พร้อมที่จะช่วยรับซื้อผลไม้ต่อเนื่อง ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด
         
ทั้งนี้ ยังมีแผนสำรองไว้รองรับผลไม้ หากมีปัญหาผลผลิตล้นตลาด หรือผลผลิตออกกระจุกตัว โดยจะร่วมมือกับหอการค้าไทย วางแผนระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อรับมือผลผลิต โดยจะเชื่อมโยงโรงงานเข้าไปรับซื้อ นำผลผลิตไปแปรรูป และช่วยกันทำตลาด โดยมั่นใจว่า แผนทั้งหมดนี้ จะช่วยดูแลผลผลิตผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด และดูแลเกษตรกรให้ขายผลผลิตได้

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง