กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจในงาน BizClubX Business Matching 2025 นำผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือก 95 ราย เจรจากับผู้ซื้อ โมเดิร์นเทรด ห้างท้องถิ่น ปั๊มน้ำมัน 14 ราย เพื่อช่วยขยายโอกาสให้กับ SME คาดสร้างมูลค่าการค้าไม่น้อยกว่า 90 ล้านบาท

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจภายในงาน BizClubX Business Matching 2025 ซึ่งเป็นกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ที่กรมจัดขึ้นเป็นปีแรก เพื่อผลักดันผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้าสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ผ่านการจับคู่ธุรกิจอย่างเป็นระบบ พร้อมสนับสนุนให้เกิดการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการค้าอย่างยั่งยืน โดยได้คัดเลือกผู้ประกอบการจำนวน 120 ราย จากผู้สมัครทั้งหมด 195 ราย ที่มีผลิตภัณฑ์คุณภาพ พร้อมขยายตลาดเข้าสู่โมเดิร์นเทรด และช่องทางจัดจำหน่ายอื่น ๆ
         
โดยกิจกรรมการเจรจาธุรกิจในครั้งนี้ มีความพิเศษด้วยการนำเสนอ BizClubX 2025 Directory ซึ่งเป็น e-Catalogue ที่รวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ซื้อ (Buyer) พิจารณาล่วงหน้า และกำหนดคู่เจรจาเป้าหมายได้อย่างตรงจุด โดยมีผู้ประกอบการที่ผ่านเข้ารอบการเจรจาธุรกิจทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ รวมทั้งสิ้น 95 ราย และมี Buyer จำนวน 14 ราย ประกอบด้วยห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำ ได้แก่ CP All, Makro-Lotus, Big C, Tops ห้างท้องถิ่น เช่น บิ๊กแคท มาร์ท จังหวัดยโสธร และแสงทองซูเปอร์เซ็นเตอร์ จังหวัดระยอง สถานีบริการน้ำมัน เช่น บางจาก คอร์ปอเรชั่น รวมทั้งสมาคมการค้าและบริษัทเอกชนต่าง ๆ
         


นอกจากนี้ กรมยังได้เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการด้วยการจัดเสวนาในหัวข้อ “เจาะลึกโอกาสค้าขายและกลยุทธ์การเป็นคู่ค้าโมเดิร์นเทรด พร้อมนำข้อเสนอแนะจากเวทีดังกล่าวมาออกบูธให้คำปรึกษาโดยหน่วยงานพันธมิตรของกรม ได้แก่ SCG Packaging มาให้คำปรึกษาด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัท อินเทลลิเจนท์ ดี.ซี. ให้คำปรึกษาเรื่องเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนธุรกิจ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้คำปรึกษาด้านแหล่งเงินทุนและการวิเคราะห์สุขภาพทางการเงินของธุรกิจ
         
“กรมเชื่อมั่นว่าการจับคู่เจรจาธุรกิจในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญระหว่างผู้ประกอบการ SME และผู้ซื้อที่จะนำพาให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเป็นคู่ค้ากันได้ในระยะยาว เป็นการช่วยยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการ SME ไทย ให้สามารถแข่งขันได้ และสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ และคาดว่าหลังเสร็จสิ้นการจัดงานจะสามารถสร้างมูลค่าการเจรจาได้ไม่น้อยกว่า 90 ล้านบาท”นางอรมนกล่าว