​“พิชัย”รับลูกนายกรัฐมนตรี ลุยสินค้าด้อยคุณภาพ นอมินี โชว์ผลงานจัดการไปแล้วเพียบ

img

“พิชัย”รับลูกนายกรัฐมนตรีเดินหน้าจัดการสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ล่าสุดผนึกมหาดไทยตรวจสอบบริษัทต้องสงสัยเป็นนอมินี 46,918 ราย พร้อมโชว์ผลงาน ดำเนินคดีสินค้าผิดกฎหมายแล้ว 57,739 คดี มูลค่าเสียหาย 2,287 ล้าน เก็บภาษีนำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้ 1,875 ล้าน ลบสินค้าผิดกฎหมายจากออนไลน์ 14,976 รายการ ดำเนินคดีกับธุรกิจนอมินี 861 ราย มูลค่าเสียหาย 15,296 ล้านบาท และยังเพิ่มมาตรการคุมเข้มสินค้านำเข้าทะลัก
         
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในเรื่องการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ร่วมกับนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มล.ภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ว่า การประชุมครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อผลักดันการขับเคลื่อนนโยบายของนายกรัฐมนตรีให้เกิดผลเป็นรูปธรรมใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.การป้องกันการจดทะเบียนบริษัทนอมินี 2.การป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน 3.การป้องกันการสวมสิทธิ์แอบอ้างเป็นสินค้าไทย 4.การป้องกันโรงงานต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และ 5.การป้องกันการถ่ายลำสินค้า
         
ทั้งนี้ การปฏิบัติตามนโยบายในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีความคืบหน้าที่สำคัญ คือ การบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย ผ่านการตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ระดับจังหวัด เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน จับกุม และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดนอมินี โดยมีนิติบุคคลเป้าหมาย จำนวน 46,918 ราย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมาย  
         
ส่วนผลการทำงานตั้งแต่เดือน ก.ย.2567-พ.ค.2568 หน่วยงานภายใต้คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ได้ดำเนินคดีสินค้าผิดกฎหมายกว่า 57,739 คดี มูลค่าความเสียหาย 2,287 ล้านบาท และเก็บภาษีนำเข้าสินค้าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้ถึง 1,875 ล้านบาท และมีการใช้มาตรการ Notice and Takedown ลบสินค้าผิดกฎหมายจากออนไลน์กว่า 14,976 รายการ และดำเนินคดีกับธุรกิจนอมินี 861 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 15,296 ล้านบาท
         


นอกจากนี้ เพื่อรับมือกับการไหลทะลักของสินค้านำเข้าจากมาตรการภาษีของต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งลดระยะเวลาการไต่สวนมาตรการปกป้องและตอบโต้ทางการค้าให้เหลือไม่เกิน 1 ปี และจับมือภาคเอกชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาใช้มาตรการเซฟการ์ดป้องกันตลาดภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
         
“นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการจัดระเบียบสินค้านำเข้าและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ กระทรวงพาณิชย์จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมการค้าต่างประเทศ เร่งแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมอบหมายงาน และรายงานผลต่อคณะกรรมการฯ โดยเร็ว และในต้นสัปดาห์หน้า ให้จัดประชุมคณะกรรมการฯ ชุดใหญ่ เพื่อขับเคลื่อนข้อสังการของนายกรัฐมนตรีให้เห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป”นายพิชัยกล่าว
         
สำหรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ดำเนินการเร่งด่วน เช่น กรมการค้าต่างประเทศประสานสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ใช้กฎหมายกับอีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์ม กรมศุลกากรและกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจสอบคุณภาพสินค้าในเขตฟรีโซน ประสานกรมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ผลการดำเนินงานและสร้างการรับรู้ในกลุ่มผู้ประกอบการ พัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้า และปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการถ่ายลำสินค้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ เป็นต้น

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง