
สนค.เจาะลึกส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ปี 67 หลายสินค้ายังครองแชมป์ในตลาดโลก ทั้งสตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง ทุเรียน มะพร้าวสดหรือแห้ง ยางพารา สับปะรดกระป๋อง ไก่แปรรูป ปลาทูน่ากระป๋อง มันสำปะหลัง เดกซ์ทริน และโมดิไฟด์สตาร์ชอื่น ๆ กุ้งและเครย์ แต่หลายสินค้าเริ่มมีความเสี่ยง มีสัญญาณเตือนให้ต้องระวังคู่แข่ง ส่วนสินค้าที่เคยเป็นแชมป์ในปี 66 มะพร้าวทั้งกะลา หัวมันสำปะหลังและมันสำปะหลังอัดเม็ด แป้งมันสำปะหลัง หล่นมาอยู่อันดับ 2 ในปี 67 แนะจะรักษาแชมป์ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันพัฒนาสินค้า ยกระดับมาตรฐาน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค.ได้ทำการวิเคราะห์การส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรไทยของปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่า มีมูลค่า 52,185 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,835,800 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 5.9% แบ่งเป็นสินค้าเกษตร 28,827.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,014,588 ล้านบาท) เพิ่ม 7.5% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร 23,357.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (821,212 ล้านบาท) เพิ่ม 4.1% โดยสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทยหลายรายการ มีมูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ซึ่งตอกย้ำไทยในการเป็นครัวของโลกได้เป็นอย่างดี
โดยสินค้าที่ไทยส่งออกสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 เรียงตามส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ได้แก่ สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง (HS Code 110814) มีมูลค่าส่งออกไปตลาดโลก 1,611.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 8.86% โดยมีส่วนแบ่งตลาด 57% ของมูลค่าการส่งออกสตาร์ชฯ ของโลก (2,829.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกสตาร์ชฯ ของโลก ลดลง 2.59% แสดงถึงศักยภาพของไทยการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้
ทุเรียน (HS Code 081060) มีมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลก 3,817.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 5.87% โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 54.2% ของมูลค่าการส่งออกทุเรียนของโลก (7,043.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่พบว่ามูลค่าการส่งออกทุเรียนของโลก เพิ่ม 7.27% ชี้ให้เห็นสัญญาณว่าไทยต้องเร่งปรับตัวให้แข่งขันได้
มะพร้าวสดหรือแห้ง (HS Code 080119) มีมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลก 226.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 23.68% โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 37.2% ของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวของโลก (607.6 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่พบว่ามูลค่าการส่งออกมะพร้าวของโลก เพิ่ม 12.19% ชี้ให้เห็นสัญญาณว่าไทยต้องเร่งปรับตัวให้แข่งขันได้
ยางพารา (HS code 4001) มีมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลก 4,971.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 37.26% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 31.3% ของมูลค่าการส่งออกยางพารารวมของโลก (15,885.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกยางพาราของโลก เพิ่ม 26.13% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย
สับปะรดกระป๋อง (HS Code 200820) มีมูลค่าการส่งออก 325.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 7.14% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 30.8% ของมูลค่าการส่งออกสับปะรดกระป๋องรวมของโลก (1,057.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกสับปะรดกระป๋องของโลก เพิ่ม 5.86% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย
ไก่แปรรูป (HS Code 160232) มีมูลค่าการส่งออก 2,938.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 8.12% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 25.6% ของมูลค่าการส่งออกไก่แปรรูปรวมของโลก (11,456.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกไก่แปรรูปของโลก เพิ่ม 6.07% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย
ปลาทูน่ากระป๋อง (HS Code 160414) มีมูลค่าการส่งออก 2,487.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 20.15% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 25.5% ของมูลค่าการส่งออกปลาทูน่ากระป๋องรวมของโลก (9,757.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกปลาทูน่ากระป๋องของโลก เพิ่ม 15.04% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย
สินค้ามันสำปะหลัง เดกซ์ทริน และโมดิไฟด์สตาร์ชอื่น ๆ (HS Code 350510) มีมูลค่าการส่งออก 944.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 2.32% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 20.9% ของมูลค่าการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังรวมของโลก (4,512.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังของโลก ลด 3.9% แสดงถึงศักยภาพของไทยการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้
กุ้งและเครย์แห้ง เค็ม หรือแช่ในน้ำเกลือ และรมควัน (HS Code 030695) มีมูลค่าการส่งออก 49.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 18.42% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 19.7% ของมูลค่าการส่งออกกุ้งและเครย์แห้งฯ รวมของโลก (251.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกกุ้งและเครย์แห้งฯ ของโลก ลด 3.08% แสดงถึงศักยภาพของไทยการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้
กุ้งและเครย์สด หรือแช่เย็น (HS Code 030636) มีมูลค่าการส่งออก 90.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 3.11% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 17.7% ของมูลค่าการส่งออกกุ้งและเครย์สดฯ รวมของโลก (511.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่พบว่ามูลค่าการส่งออกกุ้งและเครย์สดฯ ของโลก ลด 1.45% ซึ่งเป็นการหดตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าสำคัญที่ไทยเคยส่งออกได้เป็นอันดับที่ 1 ของโลกในปี 2566 แต่เริ่มสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในปี 2567 และหลุดจากอันดับที่ 1 ได้แก่ มะพร้าวทั้งกะลา (HS Code 080112) มีมูลค่าการส่งออก 92.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 38.94% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 27.1% ของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวฯ ของโลก (339.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ อินโดนีเซีย มีส่วนแบ่งตลาด 33.4% ขณะที่ในปี 2566 ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 44.8% ของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวฯ ของโลก
หัวมันสำปะหลังและมันสำปะหลังอัดเม็ด (HS Code 071410) มีมูลค่าการส่งออก 480 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 57.65% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 24.9% ของมูลค่าการส่งออกหัวมันสำปะหลังฯ ของโลก (1,928.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ กัมพูชา มีส่วนแบ่งตลาด 35.8% ขณะที่ในปี 2566 ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 41.4% ของมูลค่าการส่งออกหัวมันสำปะหลังฯ ของโลก
แป้งมันสำปะหลัง (HS Code 110620) มีมูลค่าการส่งออก 25.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 14.48% ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 19.1% ของมูลค่าการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของโลก (133.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ เปรู มีส่วนแบ่งตลาด 19.2% ขณะที่ในปี 2566 ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 21.4% ของมูลค่าการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของโลก
“แม้ภาพรวมการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทยในปี 2567 ยังคงเติบโต แต่จากข้อมูลเผยให้เห็นว่าสินค้าที่ไทยมีมูลค่าการส่งออกเป็นอันดับที่ 1 บางรายการกำลังเผชิญภาวะถดถอย มีมูลค่าการส่งออกหดตัว ได้แก่ ทุเรียน มะพร้าวสดหรือแห้ง และกุ้งเครย์สดหรือแช่เย็น แม้ว่าไทยจะยังคงรักษาตำแหน่งผู้ส่งออกอันดับที่ 1 ของโลกได้ แต่มีสัญญาณเตือนที่ทำให้ต้องเฝ้าระวังและหาแนวทางแก้ไข ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเร่งพัฒนาสินค้าเกษตรไทยเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโลก และป้องกันการสูญเสียรายได้ของประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะการเร่งแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรที่มีผลผลิตลดลงมาก การยกระดับมาตรฐานสินค้าเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของไทย ตลอดจนการรักษาฐานการส่งออกเดิม และแสวงหาตลาดศักยภาพใหม่”นายพูนพงษ์กล่าว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง