​กรมพัฒน์จับมือกรมส่งเสริมการเกษตร บัญชี จุฬาฯ ช่วยวิสาหกิจชุมชนทำตลาดยุคดิจิทัล

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจับมือกรมส่งเสริมการเกษตร และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงพื้นที่เสริมศักยภาพการทำตลาดออนไลน์ การสร้างเรื่องราวและแบรนด์ การใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการธุรกิจให้กับวิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผักสมุนไพรและผลไม้ ต.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน หลังเคยให้ความช่วยเหลือด้านการทำบัญชี การทำตลาดก่อนหน้านี้
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงพื้นที่ตำบลบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน เยี่ยมวิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผักสมุนไพรและผลไม้ เพื่อให้ความรู้วิสาหกิจชุมชนด้านการตลาดออนไลน์ การสร้างเรื่องราวและแบรนด์ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการธุรกิจ หลังจากที่ได้เข้ามาช่วยวางระบบบัญชี การบริหารจัดการธุรกิจ การสร้างแบรนด์ และการทำตลาดมาก่อนหน้านี้แล้ว
         
สำหรับวิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผักสมุนไพรและผลไม้ ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่จำนวน 34 ราย จำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรอินทรีย์ เช่น ลำไยอบแห้งทั้งเปลือก ลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง มะม่วง Freeze Drying โดยมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในปีล่าสุดประมาณ 10 ล้านบาท และมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
         
“กรมหวังว่าโครงการพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้ประกอบการให้แก่วิสาหกิจชุมชน จะช่วยให้วิสาหกิจชุมชนมีระบบการบริหารจัดการงานหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพด้วยการใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ เช่น มีระบบการจัดทำบัญชีผ่าน Cloud Accounting  ขณะเดียวกันวิสาหกิจชุมชนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยการสร้างเรื่องราวและแบรนด์ของตนเองให้โดดเด่น ตอบโจทย์และความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ นำไปสู่การเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยกรมจะจับมือกับ 2 หน่วยงานต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะขยายผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการนี้ไปยังวิสาหกิจชุมชนรายอื่นต่อไป”นางอรมนกล่าว
         


ก่อนหน้านี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการเกษตร และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จับมือกันลงนามจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้ประกอบการให้แก่วิสาหกิจชุมชนเมื่อเดือน มิ.ย.2567 มีเป้าหมายร่วมกันที่จะพัฒนาศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการให้แก่วิสาหกิจชุมชน ทั้งในส่วนการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการและการจัดทำบัญชี เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านกลยุทธ์การบริหารจัดการธุรกิจ การตลาด และการสร้างแบรนด์ เป็นต้น

โดย 3 หน่วยงานได้ร่วมกันคัดเลือกวิสาหกิจชุมชนเป้าหมายที่มีความพร้อมด้านบุคลากรที่จะเข้ารับการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อนำไปปฏิบัติ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พื้นฐานที่จะใช้ในการทำระบบบัญชี รวม 6 วิสาหกิจชุมชน ได้แก่ 1.วิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชน อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี 2.วิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผักสมุนไพรและผลไม้ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน 3.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปข้าว อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ 4.วิสาหกิจชุมชนเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 5.วิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพชุมชนเกาะกก อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และ 6.วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่กาแฟ อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง
         
ที่ผ่านมา ได้แบ่งภารกิจในการทำงาน โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำบัญชี การใช้งานโปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป การบริหารจัดการธุรกิจ และทักษะที่จำเป็น เพื่อสร้างโอกาสทางการค้า ขยายช่องทางการตลาด และส่งเสริมศักยภาพของวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้วิสาหกิจชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของการวางระบบบัญชีและการใช้เทคโนโลยีเพื่อบริหารจัดการธุรกิจ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้คำปรึกษาและสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนในการวางแผนการตลาด และการสร้างแบรนด์ เพื่อเพิ่มยอดขาย เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น สร้างการยอมรับและเพิ่มมูลค่าสินค้า
         
ปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนแล้วกว่า 72,000 แห่ง มีสมาชิกรวมกว่า 1.3 ล้านคน ครอบคลุมทั้งภาคการเกษตร นอกภาคการเกษตร เช่น งานหัตถกรรม งานเครื่องจักรสาน งานเฟอร์นิเจอร์ และภาคบริการ  

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง