​“พาณิชย์”จัดสายตรวจเฉพาะกิจลงพื้น จ.กาญจนบุรี ดูแลซื้อขายมัน ป้องเอาเปรียบเกษตรกร

img

กรมการค้าภายในจัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อมันสำปะหลังพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เผยผู้ประกอบการให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แสดงราคารับซื้อชัดเจน เปิดเผย ใช้เครื่องชั่งและเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์แป้งตามมาตรฐานที่กำหนด ฝากเกษตรกร เก็บเกี่ยวมันครบอายุ เพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพ ฝากผู้ซื้อ ห้ามเอาเปรียบ ทั้งน้ำหนัก เชื้อแป้ง หากพบเล่นงานตามกฎหมายเด็ดขาด

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 27-31 ม.ค.2568 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และนายตรวจชั่งตวงวัด ตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อมันสำปะหลังของผู้ประกอบการที่รับซื้อมันสำปะหลังและที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าพืชไร่ ปีการผลิต 2567/68 ของกรม ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี พบว่า ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการแสดงราคารับซื้อที่ชัดเจนและเปิดเผย ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และราคารับชื้อหัวมันสำปะหลังสดในพื้นที่ อยู่ที่ 1.7-2.0 บาท/กิโลกรัม (กก.) ที่เปอร์เซนต์เชื้อแป้ง 25%

ทั้งนี้ ขอฝากถึงเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ให้เก็บเกี่ยวมันสำปะหลังที่ครบอายุ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและได้รับราคาที่สูงขึ้น เนื่องจากราคารับซื้อจะขึ้นอยู่กับคุณภาพและเปอร์เซ็นต์แป้งของมันสําปะหลัง และขอให้เกษตรกรรักษาสิทธิ์ของตนเองในการนำผลผลิตมาจำหน่ายให้ผู้รับซื้อ โดยทุกครั้งจะต้องมีการวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง เพื่อจะได้ราคาที่ยุติธรรม และขอให้ผู้รับซื้อหมั่นสังเกตเปลี่ยนน้ำที่ใช้สำหรับการวัดเชื้อแป้ง อย่างน้อยหลังจากการวัดเชื้อแป้งแล้ว 4-5 ครั้ง เพื่อไม่ให้มีสิ่งเจือปนหรือดินอยู่ในน้ำที่จะเป็นสาเหตุทำให้เปอร์เซ็นเชื้อแป้งที่วัดได้ต่ำลง



“กรมจะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และนายตรวจชั่งตวงวัดลงพื้นที่ตรวจสอบกำกับดูแลลานรับซื้อใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก เครื่องวัดเปอรเซ็นต์ซื้อแป้งที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง หากพบว่า ไม่แสดงราคารับซื้อ มีการกดราคารับซื้อ ใช้เครื่องชั่งที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเอาเปรียบเปอร์เซ็นต์แป้ง จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยเกษตรกรสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ”นายอุดมกล่าว

สำหรับโทษ กรณีกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่แสดงราคารับซื้อตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อหรือมีการคิดค่าชั่งน้ำหนักสินค้าเกษตรที่รับซื้อ หรือลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 กรณีใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองหรือคำรับรองสิ้นอายุในการซื้อขายสินค้า ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีโกงเครื่องชั่งหรือใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการดัดแปลงแก้ไข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ตามพ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542  

การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาสินค้าเกษตรให้มีเสถียรภาพ เพื่อเป็นการยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรไทย และกำกับดูแลให้การซื้อขายสินค้าเกษตรภายในประเทศเกิดความเป็นธรรม และให้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ ตรวจสอบกำกับดูแลผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรทั่วประเทศ โดยเฉพาะมันสำปะหลังที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้า และที่ผ่านมา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบตามจังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังสำคัญ เช่น นครราชสีมา สระแก้ว สุรินทร์ ขอนแก่น กำพงเพชร พิษณุโลกและอุบลราชธานีไปแล้ว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง