กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดแผนทำงานปี 68 ตั้งเป้าพัฒนางานบริการจดทะเบียนและข้อมูลธุรกิจ ทำผ่านระบบออนไลน์ได้ 100% เตรียมลุยส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ทั้งสร้างเครือข่าย ปั้นโชห่วย ดันธุรกิจ BCG ส่งเสริมธุรกิจใช้เทคโนโลยี เปิดหลักสูตรออนไลน์ที่ตอบโจทย์ ส่งเสริมการค้าออนไลน์ ดันธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุน หนุนแฟรนไชส์โกอินเตอร์ ปิดท้ายเข้มสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2568 กรมได้ตั้งเป้าขับเคลื่อนงานบริการจดทะเบียนและข้อมูลธุรกิจ โดยจะให้บริการดิจิทัลทุกกระบวนงานแบบสมบูรณ์ 100% หลังจากที่ล่าสุดได้เปิดให้บริการระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล หรือ DBD Biz Regist ที่ทำให้ผู้ใช้บริการจดทะเบียนธุรกิจได้รวดเร็วขึ้นด้วยขั้นตอนการใช้งานที่ง่ายเป็นมิตรหรือ User Friendly มากขึ้น ผ่านรูปแบบ e-Form เช่น ลดการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน ลดความยุ่งยากในการลงลายมือชื่อ และผู้ใช้งานสามารถเลือกวันเวลาในการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจได้ด้วยตนเอง เป็นต้น และขณะนี้จะเหลือเพียงระบบจดทะเบียนสมาคมการค้าและหอการค้าที่เป็นงานบริการออนไลน์ประเภทสุดท้ายที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ยังได้ขยายผลการยกเลิกเรียกเอกสารหนังสือรับรองนิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น โดยในปี 2567 ได้เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 22 หน่วยงาน ช่วยให้ประชาชนและผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายในภาพรวมได้กว่า 7,100 ล้านบาท/ปี และปี 2568 จะเพิ่มเติมอีก 25 หน่วยงาน ไปจนถึงปี 2570 ตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมทั้ง 74 หน่วยงาน
สำหรับการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ได้วางแผนพัฒนาใน 4 ด้าน คือ เพิ่มศักยภาพธุรกิจ ให้ทันกับเทรนด์การตลาดที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยี อาทิ พัฒนาเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club , ขยายร้านสมาร์ทโชห่วยไปสู่ร้านค้าปลีกอื่น ๆ ในชุมชน อย่างร้านขายยา อุปกรณ์เบเกอรี่ เครื่องเขียน ก่อสร้าง และสินค้าเกษตร , ส่งเสริมแนวคิด BCG ในธุรกิจบริการผู้สูงอายุ สุขภาพและความงาม (Wellness) , ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีมาบริหารจัดการธุรกิจและลดค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ และจัดทำหลักสูตร DBD e-Learning ที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยในปี 2568 ได้เพิ่มเติมวิชา เส้นทางสู่ความสำเร็จธุรกิจร้านอาหาร และรู้ทันภูมิรัฐศาสตร์ สร้างโอกาสธุรกิจไทย รวมถึงมีแผนการพัฒนาหลักสูตรใหม่เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เช่น AI For SME โดยตั้งแต่ปี 2565-2567 มีผู้เรียนเข้าเรียนและจบหลักสูตรกว่า 119,165 ราย
นอกจากนี้ จะกระตุ้นการค้าออนไลน์ โดยจะสร้างความเชื่อมั่นให้ธุรกิจ e-Commerce มากยิ่งขึ้น ผ่านเครื่องหมายยืนยันตัวตน DBD Registered ที่เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานภายนอกได้ ซึ่งกำหนดเปิดใช้ในเดือนเม.ย.2568 ทำให้การขอเครื่องหมายสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งทำให้ร้านค้าออนไลน์มีความน่าเชื่อถือในสายตาผู้บริโภคมากขึ้น
ขณะเดียวกัน มีแผนเดินหน้าร่วมกับสถาบันการเงินและพันธมิตรสร้างความรู้ พร้อมส่งเสริมธุรกิจให้เข้าถึงเงินทุนด้วยหลักประกันทางธุรกิจ โดยเฉพาะไม้ยืนต้น สร้างโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ทั้งการพาธุรกิจแฟรนไชส์ไปค้าขายต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีแฟรนไชส์ไทยในการส่งเสริมที่สามารถขยายไปต่างประเทศได้ 46 ราย ใน 31 ประเทศ การสร้างโอกาสทางการตลาดร้านอาหารไทย Thai SELECT ช่วยเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในพื้นที่ผ่านอัตลักษณ์ท้องถิ่น หรือ GI การพัฒนาธุรกิจชุมชนให้มีทักษะการบริหารธุรกิจแบบมืออาชีพ สร้างตลาดให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น พร้อมเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้มีเวทีเจรจาธุรกิจและเข้าถึงลูกค้าได้ทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนการสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ กรมอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล หรือ Intelligence Business Analytic System (IBAS) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือกำกับดูแลและตรวจสอบนิติบุคคลให้ดำเนินธุรกิจภายใต้ระเบียบและกฎหมาย พร้อมจับมือพันธมิตรขับเคลื่อนแผนงานด้านการป้องปรามและปราบปรามการกระทำผิดในลักษณะนอมินีและบัญชีม้าเพื่อหยุดยั้งการทำลายเศรษฐกิจในประเทศ และจะเพิ่มประสิทธิภาพระบบงานผู้ทำบัญชี หรือ e-Accountant ให้รองรับการแจ้งเป็นผู้ทำบัญชีและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชีตามประกาศกรมฯ ซึ่งรองรับผู้ทำบัญชีที่ต้องเข้าใช้ระบบมากกว่า 76,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
“การดำเนินงานตามแผนงานในปี 2568 จะประสบความสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายไม่ได้เลย หากขาดความร่วมมือร่วมใจจากพันธมิตรทั้งที่เคยร่วมงานและกำลังจะมีแผนทำงานร่วมกัน กรมต้องขอขอบคุณจากใจจริงที่ทุกภาคส่วนได้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ความสำเร็จของภาคธุรกิจและประโยชน์ของประชาชนไทย กรมขอยืนยันว่าจะไม่หยุดพัฒนางานบริการให้สอดรับกับความต้องการของผู้ใช้บริการและพร้อมจะสนับสนุนการทำธุรกิจให้สะดวกสบาย มีทักษะการค้าขายอย่างมืออาชีพด้วยอาวุธทางความรู้ที่อัพเดทอยู่เสมอ ประกอบกับมีเครื่องมือเทคโนโลยีที่จะช่วยเป็นผู้ช่วยแบ่งเบาการบริหารธุรกิจให้คล่องตัวขึ้น”นางอรมนกล่าว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง