กรมการค้าต่างประเทศสรุปยอดการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 67 ทำได้มูลค่า 1.81 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% ถือเป็นปีทองการค้า และยังทำสถิติมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เผยมาเลเซียนำโด่งการค้าชายแดน ตามด้วย สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา ส่วนจีนนำการค้าผ่านแดน ตามด้วยสิงคโปร์และเวียดนาม ตั้งเป้าปี 68 มูลค่า 1.89 ล้านล้านบาท เพิ่ม 4%
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ปี 2567 มีมูลค่า 1,815,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% ถือเป็นปีทองของการค้า และยังเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขยายตัวสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4% ต่อปี ตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567–70 ที่จะขยายมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนเป็น 2 ล้านล้านบาทต่อปี ในปี 2570 โดยในจำนวนนี้ แยกเป็นการส่งออก 1,048,479 ล้านบาท เพิ่ม 6.9% และการนำเข้า 767,188 ล้านบาท เพิ่ม 5.1% โดยไทยได้ดุลการค้า 281,291 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากแยกเป็นการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ในปี 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 976,921 ล้านบาท เพิ่ม 5.1% เป็นการส่งออก 602,132 ล้านบาท เพิ่ม 3.8% การนำเข้า 374,789 ล้านบาท เพิ่ม 7.2% ได้ดุลการค้า 227,343 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับมาเลเซีย มีมูลค่าสูงสุด 306,679 ล้านบาท เพิ่ม 6.8% รองลงมา คือ สปป.ลาว 286,775 ล้านบาท เพิ่ม 10.1% เมียนมา 208,937 ล้านบาท ลด 5.3% และกัมพูชา 174,530 ล้านบาท เพิ่ม 7.9%
โดยสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 41,025 ล้านบาท เพิ่ม 2.2% น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ 19,575 ล้านบาท ลด 0.5% และน้ำยางข้น 15,915 ล้านบาท เพิ่ม 38.1% ส่วนสินค้านำเข้าชายแดนสำคัญ ได้แก่ เชื้อเพลิงอื่น ๆ เช่น พลังงานไฟฟ้า 75,290 ล้านบาท เพิ่ม 9.8% ก๊าซธรรมชาติ 65,236 ล้านบาท ลด 8.3% และผักและของปรุงแต่งจากผัก เช่น มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 23,560 ล้านบาท เพิ่ม 9.8% สำหรับด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงสุดในปี 2567 ได้แก่ ด่านศุลกากรสะเดา 239,660 ล้านบาท เพิ่ม 6.0% รองลงมา ด่านศุลกากรอรัญประเทศ 110,718 ล้านบาท เพิ่ม 13.9% และด่านศุลกากรหนองคาย 91,635 ล้านบาท เพิ่ม 10.2%
ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม ในปี 2567 มีมูลค่า 838,745 ล้านบาท เพิ่ม 7.4% เป็นการส่งออก 446,347 ล้านบาท เพิ่ม 11.4% การนำเข้า 392,399 ล้านบาท เพิ่ม 3.1% ได้ดุลการค้า 53,948 ล้านบาท โดยการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงสุด 479,874 ล้านบาท เพิ่ม 12.7% รองลงมา คือ สิงคโปร์ และเวียดนาม มูลค่า 110,353 ล้านบาท เพิ่ม 3.6% และ 72,030 ล้านบาท เพิ่ม 2.7% ตามลำดับ และสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญ ได้แก่ ทุเรียนสด 98,683 ล้านบาท เพิ่ม 5.3% ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 87,533 ล้านบาท เพิ่ม 12.7% และยางแท่ง TSNR 39,381 ล้านบาท เพิ่ม 39.3% ในขณะที่สินค้านำเข้าผ่านแดนสำคัญ ได้แก่ เทปแม่เหล็ก จากแม่เหล็กสำหรับคอมพิวเตอร์ 47,086 ล้านบาท เพิ่ม 2.0% เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ 38,788 ล้านบาท เพิ่ม 2.0% และเครื่องรับวิทยุโทรศัพท์ โทรเลข และโทรทัศน์ 30,174 ล้านบาท ลด 0.6% สำหรับด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าผ่านแดนสูงสุดในปี 2567 ได้แก่ ด่านศุลกากรมุกดาหาร 302,270 ล้านบาท เพิ่ม 4.5% รองลงมา ด่านศุลกากรสะเดา 212,617 ล้านบาท เพิ่ม 2.4% และด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ 102,300 ล้านบาท เพิ่ม 25.9%
นางอารดากล่าวว่า ความสำเร็จของการผลักดันการค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 2567 ที่ผ่านมา เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนตามนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์ที่ตั้งไว้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลไกความร่วมมืออนุภูมิภาคระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ส่งเสริมเศรษฐกิจตามแนวชายแดน อำนวยความสะดวกทางการค้า และเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิก
สำหรับในปี 2568 กรมจะเดินหน้าผลักดันการค้าชายแดนและผ่านแดนตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเน้นผลักดันให้เดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกและการค้าชายแดนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 1.89 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง