“พาณิชย์” จัดงาน “ธงฟ้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ @นครพนม” นำทัพสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพรวม 10 หมวด กว่า 500 รายการ ลดราคาสูงสุด 60% พร้อมสินค้าไฮไลต์ ทั้งไข่ไก่ น้ำตาล น้ำมันปาล์ม ข้าวสาร ส้มสายน้ำผึ้ง และหอมแดง มาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
         
นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมเปิดงาน “ธงฟ้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ @นครพนม” โดยมีนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน โดยการจัดงานในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และนโยบายนายพิชัย ในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส และมุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งช่วยลดภาระค่าครองชีพ โดยได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 ม.ค.2568 ณ หน้าที่ว่าการอำเภอบ้านแพง ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง

สำหรับการจัดงาน ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า กลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิตรายกลางและรายเล็ก (SME) วิสาหกิจชุมชน และเครือข่ายธุรกิจ Biz Club รวมทั้งผู้ประกอบการจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง นำสินค้าอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายรวม 10 หมวด กว่า 500 รายการ ลดสูงสุด 60% อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ซอสปรุงรส น้ำยาซักผ้า ของใช้ประจำวัน เครื่องแต่งกาย เครื่องครัว สินค้าชุมชน เป็นต้น
         


นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายสินค้าไฮไลต์ และสินค้าผลไม้ที่เชื่อมโยงจากกลุ่มเกษตรกร ในราคาพิเศษทุกวัน อาทิ ไข่ไก่เบอร์ M แผงละ 95 บาท น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 23 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ขวดละ 49 บาท ส้มสายน้ำผึ้ง กิโลกรัมละ 50 บาท และหอมแดง กิโลกรัมละ 45 บาท
         
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนใน จ.นครพนม และจังหวัดใกล้เคียง มาเลือกซื้อสินค้าราคาประหยัด มีสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพครบถ้วน ทั้งของกินของใช้ สินค้าจากเกษตรกร โดยกระทรวงพาณิชย์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนได้ตามเป้าหมาย”นายวรวงศ์กล่าว
         
ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการจัดงานธงฟ้าราคาประหยัด เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ผลิตผู้ประกอบการ และกลุ่มเกษตรกร ทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอย ผู้ประกอบการมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้า และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ