“นภินทร” เป็นประธานปล่อยขบวนรถสายตรวจเฉพาะกิจ 51 คัน ออกตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของปั๊มน้ำมัน เน้นถนนสายหลักที่ประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลสู่ต่างจังหวัด และสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อดูแลประชาชนให้เติมน้ำมันได้เต็มลิตร รับการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานปล่อยขบวนรถสายตรวจเฉพาะกิจ ออกตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีบริการน้ำมัน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยจะบูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และพลังงานจังหวัด ในการตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมัน ร่วมกับบริษัทจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงชั้นนำ 11 ราย ซึ่งการตรวจสอบที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่เพื่อสร้างความมั่นใจและอุ่นใจให้กับประชาชน กระทรวงพาณิชย์จึงได้จัดสายตรวจชุดเฉพาะกิจ เพื่อมุ่งเน้นตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่ประชาชนเดินทางจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลออกสู่จังหวัดต่าง ๆ ทุกภูมิภาคทั่วประเทศอย่างน้อย 2,000 สถานี ครอบคลุมประมาณ 60,000 หัวจ่าย หรือ 25% ของจำนวนหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมันหลักทั่วประเทศ
         
“ได้กำชับให้กรมการค้าภายใน เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีบริการน้ำมัน โดยทำงานร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานพันธมิตร จัดสายตรวจเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน ซึ่งเป็นการตรวจเข้มที่เป็นมาตรการเสริมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะเริ่มการตรวจสอบ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 ธ.ค.2567 โดยการระดมตรวจสอบนอกเหนือจากการดำเนินการปกติของเจ้าหน้าที่สายตรวจชั่งตวงวัด โดยสายตรวจเฉพาะกิจนี้ มุ่งเน้นตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่ ประชาชนเดินทาง จากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลออกสู่จังหวัดต่าง ๆ หรือเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัด และพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีการจัดสายตรวจทั้งหมด 51 คัน ออกตรวจสอบทั่วประเทศแบ่งเป็นรถสายตรวจในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 19 คัน และรถสายตรวจตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ 32 คัน”
         


ทั้งนี้ กรมการค้าภายในยังได้จัดทำโครงการ “หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน” โดยจะมีการมอบป้ายสัญลักษณ์โครงการให้แก่บริษัทผู้ค้าน้ำมันที่ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน ในการรายงานผลการตรวจสอบให้ทราบเป็นประจำทุกเดือนตามเงื่อนไขโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 7,000 สถานี ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมและสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้น
         
นายนภินทรกล่าวว่า ขอฝากถึงประชาชนที่ใช้บริการสถานีบริการน้ำมัน ควรสังเกตที่ตู้จ่ายน้ำมัน ก่อนเติมยอดเงินและจำนวนลิตรต้องเป็นเลขศูนย์ และเมื่อเติมเสร็จให้ดูยอดขายกับจำนวนลิตรว่าถูกต้องหรือไม่ด้วย เพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเอง โดยเฉพาะหากใช้บริการจากสถานีบริการที่ได้รับป้ายสัญลักษณ์โครงการหัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน จะได้รับปริมาณครบถ้วนถูกต้องอย่างแน่นอน และท้ายนี้ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ พกพาความสุขกลับไปหาครอบครัวในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
         
อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเติมน้ำมัน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 แอปฟลิเคชันไลน์ @MR.DIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยสถานีบริการใดใช้หัวจ่ายที่คลาดเคลื่อนหรือไม่มีเครื่องหมายคำรับรอง มีความผิดตามกฎหมาย และมีโทษทางอาญา จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสถานีบริการใดดัดแปลงหัวจ่ายให้คลาดเคลื่อนมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท