​“พาณิชย์” ชี้ช่องผู้ส่งออก ใช้ TikTok ขายสินค้าไทยในสหราชอาณาจักร หลังผู้บริโภคนิยม

img

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้าผู้ส่งออกไทย ใช้ TikTok ขยายตลาดสินค้าไทยในตลาดสหราชอาณาจักร หลังผู้บริโภคนิยม และกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีคนเข้าไปซื้อขายมากที่สุด เผยผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ มีโอกาสสูง 
         
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนายประคัลร์ กอดำรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ในสหราชอาณาจักรที่จับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในโลกโซเชียลมีเดีย และโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะใช้ช่องทางนี้ในการทำตลาดให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น
         
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้โซเชียลมีเดียมีผลอย่างมากต่อการเลือกซื้อสินค้า และมีความเชื่อมโยงมากขึ้นกับอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะในแอพพลิเคชัน Tiktok ที่เริ่มสร้างพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าให้ผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ โดยอาจตัดสินใจเลือกซื้อจากการชมวีดีโอ รีวิว หรือแนะนำสินค้าจากช่องทางโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้เกิดกระแสการใช้แฮชแท็ก #TikTokMadeMeBuyIt ซึ่งจากการสำรวจ พบว่า แฮชแท็กนี้ถูกใช้แล้วมากกว่า 7,000 ล้านครั้ง ในการโพสต์สินค้าที่เลือกซื้อตามคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บนแอพพลิเคชัน Tiktok
         


ทั้งนี้ Social Shopping เป็นการเลือกซื้อสินค้าโดยใช้ประโยชน์จากสื่อคอนเทนต์และเนื้อหาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Tiktok , Instagram และ Facebook ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อต่อผู้บริโภคและทำให้กระบวนการตัดสินใจในการซื้อ และประสบการณ์ในการเลือกซื้อเกิดขึ้นที่แพลตฟอร์มเดียวและการตัดสินใจซื้อจบลงได้อย่างรวดเร็ว โดยในปี 2023 Tiktok ได้รับการขนานนามว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีการซื้อขายมากที่สุดในสหราชอาณาจักร และจากการสำรวจของ Retail Technology Show พบว่า ผู้ใช้ชาวอังกฤษมีการซื้อเฉลี่ย 10 ครั้งบน Tiktok เมื่อเทียบกับ 9 ครั้งบนแพลตฟอร์มของ Meta ทั้งนี้ จำนวนผู้ใช้ Tiktok ในสหราชอาณาจักรปัจจุบันมีมากถึง 19 ล้านบัญชีผู้ใช้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจนถึง 21 ล้านบัญชีผู้ใช้ในปี 2026 สินค้าที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมากบนแพลตฟอร์ม ได้แก่ เสื้อผ้า, เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์สำหรับคนท้องและเด็กทารก, ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ, และ ของตกแต่งบ้าน เป็นต้น
         
นายภูสิตกล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ คือ ฟีเจอร์ TikTok Shop ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกดูและซื้อสินค้าได้โดยตรงภายในแอปพลิเคชัน โดยมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่น สะดวก และน่าสนใจ ส่งผลให้ยอดขายที่พุ่งสูงขึ้นได้ไม่ยากจากการเข้าถึงของแพลตฟอร์มที่กว้างขวางและเนื้อหาของคอนเทนต์ที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นช่องทางที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ในการเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพพร้อมจับจ่าย และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มที่เลือกคอนเทนต์ที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมขึ้นเสนอแก่ผู้ใช้แอปพลิเคชัน ส่งผลให้เกิดการตลาดรูปแบบใหม่ โดยการทำตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ โดยการสร้างเนื้อหาที่ช่วยโปรโมตผลิตภัณฑ์ในแบบที่ดูจริงใจและสามารถเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก

“การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Tiktok ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยในสหราชอาณาจักร และเป็นโอกาสให้สินค้าไทยได้ใช้ประโยชน์ในการทำตลาดและแนะนำสินค้าของตนเองสู่ตลาด สหราชอาณาจักรได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ทำจากวัตถุดิบในประเทศไทยหรือสมุนไพรต่าง ๆ ที่อาจตอบโจทย์และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่พร้อมจะลองบริโภคสินค้าใหม่ได้ง่ายขึ้น”นายภูสิตกล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง