“พาณิชย์”เผยผลการเจรจาจัดทำ FTA ไทย-ภูฏานรอบแรก เคาะตั้งคณะทำงาน 8 ชุด พร้อมทำแผนการเจรจา วางเป้าเจรจาให้จบภายในปี 68 ก่อนไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม รอบ 2 เดือน ส.ค.นี้ ชี้การทำ FTA จะช่วยหนุนการค้า 2 ฝ่ายทะลุ 120 ล้านเหรียญสหรัฐ แย้มไทยได้ประโยชน์มีโอกาสส่งออกเพียบ
         
น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ภูฏาน รอบแรก ที่จัดขึ้นวันที่ 17 พ.ค.2567 ที่ผ่านมา ณ ประเทศภูฏาน ว่า ตนเป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย และนายโซแนม เชอริง ดอร์จิ ผู้อำนวยการกรมการค้า เป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายภูฏาน โดยทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปโครงสร้างของความตกลงสำหรับเปิดเสรีด้านการค้าสินค้า โดยจะจัดตั้งคณะทำงาน 8 ชุด ประกอบด้วย ด้านการค้าสินค้า ด้านกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ด้านพิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า ด้านมาตรการเยียวยาทางการค้า ด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ด้านอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และด้านกฎหมาย รวมทั้งได้ร่วมกันจัดทำแผนงานการเจรจาและตั้งเป้าสรุปผลภายในปี 2568
         
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ฝ่ายไทยจะเสนอร่างบทในเรื่องต่าง ๆ ให้ฝ่ายภูฏานพิจารณา และจะจัดประชุมออนไลน์เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิคระหว่างกัน ก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาจัดทำ FTA ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ 2 ในช่วงเดือน ส.ค.2567
         


“การจัดทำ FTA ไทย-ภูฏาน จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มปริมาณการค้าสองฝ่ายให้บรรลุเป้าหมายถึง 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2025 และจะเป็นประโยชน์ต่อไทย เนื่องจากภูฏานจะเป็นตลาดรองรับการส่งออกของไทยในระยะยาว โดยสินค้าที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ อาทิ สินค้าเกษตรและอาหาร ผลไม้อบแห้ง น้ำผลไม้ เส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอาหารปรุงแต่ง สิ่งทอ เครื่องแต่งกาย เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก และเครื่องใช้ไฟฟ้า” น.ส.โชติมากล่าว
         
ทั้งนี้ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายนำเยล ดอร์จิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ และการจ้างงานภูฏาน ได้ร่วมกันประกาศเปิดการเจรจา FTA ไทย-ภูฏาน ในช่วงการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ไทย-ภูฏาน (JTC) ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 15-17 พ.ค.2567 และเริ่มการเจรจา FTA รอบแรกทันที และนายนภินทร ยังได้หารือกับนายเชริง ท็อปเกย์ นายกรัฐมนตรีภูฏาน เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2567 โดยนายกรัฐมนตรีภูฏานขอให้พิจารณาเร่งรัดสรุปผลการเจรจาโดยเร็วที่สุด ซึ่งทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า FTA ไทย-ภูฏาน จะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและประชาชนของทั้งสองประเทศ  
         
ในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับภูฏาน มีมูลค่า 18.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปภูฏาน มูลค่า 18.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากภูฏาน มูลค่า 0.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในช่วง 3 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-มี.ค.) การค้าระหว่างไทยกับภูฏาน มีมูลค่า 3.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปภูฏาน มูลค่า 3.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากภูฏาน มูลค่า 0.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ผ้าผืน และข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ ยางสำหรับอากาศยาน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์โลหะ