“นภินทร”เผยผลการตรวจตลาด Higreen ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลกว่างซี ได้รับคำยืนยัน “ทุเรียนไทย” คนจีนชอบ มีชื่อเสียง คุณภาพ รสชาติหวานหอม และอร่อยกว่าทุเรียนเวียดนาม มีเท่าไรก็ขายไม่พอ พร้อมแนะนำผู้ค้าส่ง ใช้ทุกด่านขนส่งสินค้า ทั้งหูหงิ-โหย่วอี้กวน บ่อเต็น-โม่ฮาน และด่านรถไฟผิงเสียงควบคู่ด่านอื่น ๆ แก้ปัญหาด่านติดขัด ช่วงฤดูผลไม้ 
         
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำทีมกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน เข้าเยี่ยมชมและสำรวจสถานการณ์ตลาดผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน ที่ตลาด Higreen หรือตลาด ไห่ จี๋ ซิง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองหนานหนิง และเป็นตลาดค้าส่งผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลกว่างซี มีแผงผู้ประกอบการจีนขายส่งทุเรียนไทยกว่า 2,500 ราย และมีผู้คัดเลือกสินค้าไปขายต่อกว่า 20,000 ราย ว่า จากการสอบถามพูดคุยกับผู้ค้าส่งทุเรียนรายใหญ่ของตลาดรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้นำเข้าทุเรียนไทยกว่า 800 ตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด40 ฟุตต่อปี ทราบว่าทุเรียนไทย เป็นทุเรียนที่ได้รับความนิยมมากในจีน และตลาดทุเรียนของเมืองหนานหนิง บริโภคทุเรียนจาก 2 ประเทศ คือ ทุเรียนไทย และทุเรียนเวียดนาม เมื่อถึงฤดูทุเรียนไทยออก ทุเรียนเวียดนามจะไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากคนจีนชื่นชอบทุเรียนไทยมากกว่า ทั้งในเรื่องชื่อเสียง คุณภาพ และรสชาติที่หวานหอมและอร่อยกว่า ทั้งนี้ ผู้ค้าส่งรายใหญ่ดังกล่าวยังได้แจ้งว่าทุเรียนไทยมีเท่าไรก็ขายไม่พอ 
         
ทั้งนี้ ยังได้รับทราบจากผู้ค้าส่งรายใหญ่ของทุเรียนในตลาดว่า ปัจจุบันการขนส่งทุเรียนจากไทยมาเวียดนามถึงจีน เริ่มมีการติดขัดหน้าด่าน เนื่องจากเริ่มฤดูกาลผลไม้ ซึ่งได้แนะนำให้ใช้ด่านทุกด่านของจีนที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ด่านทางทิศตะวันออก ที่เชื่อมจากด่านหูหงิ ประเทศเวียดนาม มายังด่านโหย่วอี้กวน ประเทศจีน และทิศเหนือของไทย ออกจาก สปป.ลาว คือ ด่านบ่อเต็น มายังด่านโม่ฮาน ของประเทศจีน
         
ขณะเดียวกัน ได้ให้ข้อมูลผู้ค้าส่งในตลาดว่า จากการหารือของไทยและเวียดนาม ซึ่งเชื่อมต่อกับด่านรถไฟผิงเสียงของจีน ปัจจุบันรถไฟวิ่งไปกลับอยู่สองขบวนต่อวัน ซึ่งด่านดังกล่าวสามารถรองรับได้ 5 เที่ยวต่อวัน บรรทุกได้ 20-25 ตู้ต่อเที่ยว (ตู้คอนเทนเนอร์เย็นบรรจุผลไม้ได้ 20-26 ตัน) และเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านตู้คอนเทนเนอร์เก็บความเย็นทางด่านรถไฟผิงเสียง ก็ได้พัฒนาอำนวยความสะดวกด้านที่ชาร์จตู้คอนเทนเนอร์เย็นให้เรียบร้อย จึงควรผลักดันการใช้ด่านรถไฟผิงเสียงควบคู่ไปกับด่านอื่น ๆ ที่สำคัญของเส้นทางมายังจีน
         


สำหรับตลาด Higreen หนานหนิง ก่อตั้งเมื่อปี 2551 ด้วยทุนจดทะเบียน 520 ล้านหยวน มีขนาดพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 380,857 ตารางเมตร โดยแผนโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จ จะมีขนาดพื้นที่อาคาร 6 แสนตารางเมตร เงินลงทุนประมาณ 2,500 ล้านหยวน ตามแผนงานของตลาดจะแบ่งพื้นที่ เป็นพื้นที่ขายสินค้าเกษตร ขายสินค้าแปรรูป พื้นที่การจัดส่งสินค้า พื้นที่คลังเย็น พื้นที่การค้าอีคอมเมิร์ซ และพื้นที่จัดแสดงสินค้า ปัจจุบันมีสมาชิกผู้ค้าส่งในตลาด จำนวนกว่า 2,500 ราย และมีสมาชิกผู้จัดซื้อมากกว่า 20,000 ราย
         
โดยปี 2566 ปริมาณการค้าขายในตลาด Higreen มีจำนวน 2.1451 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 12,840 ล้านหยวน คิดเป็นปริมาณการค้าขายผลไม้ต่อวัน โดยเฉลี่ยมีจำนวน 2,906 ตัน ปริมาณการค้าขายผักต่อวัน โดยเฉลี่ยมีจำนวน 2,971 ตัน และปริมาณการค้าขายอาหารแช่แข็งต่อวัน โดยเฉลี่ยมีจำนวน 300 ตัน ซึ่งครองสัดส่วนร้อยละ 98 , 60 และ 35 ของตลาดหนานหนิงโดยรวมตามลำดับ
         
นอกจากนี้ มีสัดส่วนผลไม้นำเข้าและสัดส่วนผลไม้นำเข้า 5 อันดับของประเทศ ได้แก่ อันดับหนึ่งผลไม้ประเภททุเรียน สัดส่วนร้อยละ 47.5 แก้วมังกรร้อยละ 17.7 มะม่วงร้อยละ 7.2 แตงโมร้อยละ 6 และลำไยร้อยละ 5 โดยปริมาณการนำเข้าผลไม้จากประเทศไทยและเวียดนามรวมถึงร้อยละ 91 โดยเป็นสินค้าจากไทยถึงร้อยละ 45