กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยบริษัทตั้งใหม่เดือนก.พ.66 มีจำนวน 8,537 ราย เพิ่ม 18.39% มูลค่าทุนจดทะเบียนเฉียด 2 หมื่นล้านบาท ชี้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวโตแรง ทั้งตัวแทนการเดินทาง จัดนำเที่ยว แลกเปลี่ยนเงินตรา ภัตตาคารและร้านอาหาร หลังท่องเที่ยวฟื้น คาดครึ่งปี 66 ตั้งใหม่ 4-4.2 หมื่นราย ทั้งปี 7.2-7.7 หมื่นราย
         
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนก.พ.2566 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 8,537 ราย เทียบกับเดือนม.ค.2566 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 0.84% และเทียบกับก.พ.2565 เพิ่มขึ้น 18.39% โดยเป็นการจดตั้งใหม่เฉพาะเดือนก.พ.สูงที่สุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ก.พ.2557-2566 มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 19,139.78 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 869 ราย เทียบกับม.ค.2566 ลดลง 33% เทียบกับก.พ.2565 เพิ่มขึ้น 29.90% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ 2,939.46 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และและธุรกิจขายปลีกสินค้าอื่น ๆ ในร้านค้าทั่วไป



“ในเดือนก.พ.2566 พบว่า ธุรกิจในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว มีอัตราการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นถึง 110% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีสัดส่วนการจัดตั้งใหม่คิดเป็น 8.05% ของธุรกิจที่จัดตั้งใหม่ทั้งหมดในเดือนก.พ.2566 ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนธุรกิจการเดินทาง เพิ่มขึ้น 2,300% ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่ม 320% ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่ม 200% ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหารเพิ่ม 84.23% และธุรกิจโรงแรม เพิ่ม 25.93% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากเศรษฐกิจในภาพรวม และสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น”

ทั้งนี้ กรมฯ คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 อยู่ประมาณที่ 40,000-42,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 72,000-77,000 ราย
           
ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ วันที่ 28 ก.พ.2566 จำนวน 857,964 ราย มูลค่าทุน 21.09 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 201,123 ราย คิดเป็น 23.44% บริษัทจำกัด จำนวน 655,457 ราย คิดเป็น 76.40% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,384 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ