​“จุรินทร์”สรุป“จับคู่กู้เงิน” ยื่น 11,185 ราย วงเงิน 2,440 ล้าน ประกาศขยายเวลาอีกถึง 30 มิ.ย.นี้

img

“จุรินทร์”สรุปผลการจัดทำโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ช่วยเพิ่มสภาพคล่องร้านอาหาร มีผู้สนใจยื่นกู้ 11,185 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 2,440 ล้านบาท ประกาศขยายระยะเวลาเพิ่มถึง 30 มิ.ย.นี้ หลังยังมีเสียงเรียกร้อง
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินโครงการ “จับคู่กู้เงิน” สถาบันการเงินกับร้านอาหาร ตั้งแต่วันที่ 7-20 มิ.ย.2564 ว่า มีผู้ประกอบการร้านอาหารมาติดต่อขอสินเชื่อรวม 11,185 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 2,440 ล้านบาท แยกเป็น 1.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีผู้ติดต่อขอสินเชื่อรวม 6,541 ราย วงเงินรวม 625.84 ล้านบาท 2.ธนาคารออมสิน มีผู้ติดต่อขอสินเชื่อ 4,153 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 1,276.37 ล้านบาท 3.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) มีผู้ติดต่อขอสินเชื่อ 271 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 242.66 ล้านบาท 4.ธนาคารกรุงไทย มีผู้ติดต่อขอสินเชื่อรวม 220 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 295.50 ล้านบาท ส่วนบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ยังไม่มีตัวเลข เพราะต้องรอการอนุมัติสินเชื่อจาก 4 ธนาคารนี้เสียก่อน จึงเข้ามาช่วยค้ำประกันต่อไป
         
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับสถาบันการเงิน และร้านอาหาร มีความเห็นว่าควรขยายเวลาออกไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาขอสินเชื่อเพื่อช่วยต่อลมหายใจให้กับร้านอาหาร โดยจะขยายเวลาออกไปทั่วประเทศจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2564



“ผมได้มอบให้ท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์สั่งการให้จัดกิจกรรม “จับคู่กู้เงิน” สถาบันการเงินกับร้านอาหาร ต่อไปอีกในช่วงเกือบ 10 วันนับจากนี้ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพราะในต่างจังหวัด เมื่อดูตัวเลขรายจังหวัดมีหลายจังหวัดที่มีผู้ยื่นขอกู้ตามโครงการจำนวนมาก เช่น จังหวัดอุดรธานี มีผู้ยื่นขอกู้ 305 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 83.15 ล้านบาท จังหวัดขอนแก่นมีผู้ยื่นขอกู้ 409 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 86.84 ล้านบาท จังหวัดพิษณุโลกมีผู้ยื่นขอกู้ 22 รายวงเงิน 18 ล้านบาท จังหวัดน่าน 17 รายวงเงินขอสินเชื่อ 58.65 ล้านบาท เป็นต้น”

สำหรับโครงการ “จับคู่กู้เงิน” เป็นโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมมือกับ 5 สถาบันการเงิน จัดแคมเปญเฉพาะกิจ เพื่อปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือดอกเบี้ยผ่อนปรน ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่มีอยู่ในระบบทั้งประเทศจำนวน 118,967 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคล 15,967 ราย คิดเป็น 13.43% และบุคคลธรรมดา 103,000 ราย คิดเป็น 86.57%  

โดยร้านอาหารที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถประสานงานผ่าน 7 สมาคม ได้แก่ 1.สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู๊ด 2.สมาคมภัตตาคารไทย 3.สมาคมร้านอาหารและธุรกิจท่องเที่ยวรายย่อย 4.สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร 5.สมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหาร 6.สมาคมเชียงใหม่ภัตตาคารร้านอาหารและบันเทิง และ 7.สมาคมร้านอาหารไทยจังหวัดกระบี่ รวมทั้งกลุ่มร้านอาหารอื่นๆ ทั่วทั้งประเทศ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง