​ครม.ไฟเขียวกฎกระทรวง เปิดทางแลกเปลี่ยนคุ้มครองสินค้า GI กับคู่เจรจา FTA

img

กรมทรัพย์สินทางปัญญาเผย ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขอขึ้นทะเบียน GI ของต่างประเทศ ภายใต้ความตกลงระหว่างประเทศ พ.ศ. ... และให้ส่งกฤษฎีกาตรวจสอบก่อนเสนอรัฐมนตรีพาณิชย์ลงนามให้มีผลบังคับใช้ ชี้จะเกิดผลดี เปิดให้มีการแลกเปลี่ยนรายการสินค้า GI ที่จะได้รับการคุ้มครองและขึ้นทะเบียนกับคู่เจรจา FTA ได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เตรียมหารือผู้เกี่ยวข้อง คัดสินค้า GI ที่จะยื่นคุ้มครองในสหภาพยุโรป หลัง FTA มีผลบังคับใช้  
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2568 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบหลักการ “ร่างกฎกระทรวงการขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) ของต่างประเทศ ภายใต้ความตกลงระหว่างประเทศ พ.ศ. ...” และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ก่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามให้มีผลใช้บังคับต่อไป
         
สำหรับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้ไทยเร่งเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้าสำคัญ เพื่อเปิดประตูการค้าและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย โดยมีสาระสำคัญให้ไทยและคู่เจรจา FTA สามารถแลกเปลี่ยนรายการสินค้า GI ที่จะขึ้นทะเบียนเพื่อการคุ้มครองระหว่างกันได้ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอขึ้นทะเบียน GI ภายใต้การเจรจาการค้าระหว่างประเทศเป็นการเฉพาะ แต่ยังคงมีกระบวนการประกาศโฆษณาและเปิดโอกาสให้มีการโต้แย้งคัดค้านคำขอขึ้นทะเบียน ตลอดจนการอุทธรณ์การขึ้นทะเบียน GI ตามกระบวนการปกติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ.2546
         
“การแลกเปลี่ยนรายการสินค้าที่จะคุ้มครอง GI กับคู่เจรจา FTA จะส่งผลดี และเกิดประโยชน์กับสินค้า GI ไทยที่ต้องการขยายสู่ต่างประเทศ เนื่องจากจะช่วยให้การขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ในตลาดเป้าหมายที่ไทยมี FTA ด้วย จะสะดวกรวดเร็วขึ้น เช่น กรณีสหภาพยุโรป (EU) ที่ไทยอยู่ระหว่างเจรจา FTA หากยื่นจด GI โดยทั่วไปจะใช้เวลาในการพิจารณาเพื่อให้การคุ้มครอง GI ประมาณ 2-3 ปี ก็จะใช้เวลาน้อยลงและสะดวกขึ้น ผ่านช่องทางการแลกเปลี่ยนรายการสินค้า GI ของความตกลง FTA โดยการคุ้มครอง GI ต่างประเทศ จะเกิดขึ้นเมื่อสามารถบรรลุผลการเจรจา FTA ระหว่างกัน หากไทยไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับคู่เจรจาได้ ก็จะไม่มีการคุ้มครอง GI ดังกล่าว”นางอรมนกล่าว
         


นางอรมนกล่าวว่า ก่อนที่จะนำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม ครม. กรมได้เปิดรับฟังความเห็นต่อร่างกฎกระทรวงฯ ผ่านระบบกลางทางกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและเว็บไซต์กรม เมื่อเดือน ก.ค.2568 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจร่วมแสดงความเห็น โดยผู้สนับสนุนเห็นว่าการแลกเปลี่ยนรายการสินค้า GI กับต่างประเทศที่ไทยมี FTA ด้วย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และเปิดตลาดใหม่ให้กับสินค้า GI ไทย และมีข้อเสนอว่ากระบวนการขึ้นทะเบียนควรจะโปร่งใสและเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยได้โต้แย้งคัดค้าน ซึ่งกรมได้นำความเห็นต่าง ๆ มาพิจารณาประกอบการยกร่างกฎกระทรวงอย่างรอบคอบ เพื่อให้กระบวนการขึ้นทะเบียน GI ภายใต้กรอบความตกลงระหว่างประเทศมีความโปร่งใสและเป็นธรรมกับผู้มีส่วนได้เสีย และทำให้ไทยได้ประโยชน์จากการคุ้มครอง GI ไทยในต่างประเทศ
         
ปัจจุบันกรมอยู่ระหว่างคัดเลือกสินค้า GI ไทยที่มีศักยภาพและความพร้อมที่จะขอรับการคุ้มครอง GI ใน EU โดยจะหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานการค้าไทยในต่างประเทศ และผู้ประกอบการ GI  เพื่อคัดเลือกและเตรียมความพร้อมสินค้า GI ไทยที่จะยื่นขอความคุ้มครอง GI ใน EU ผ่านกลไกนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยขยายตลาดให้กับสินค้า GI ไทยแล้ว ยังช่วยเผยแพร่ชื่อเสียง ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมของไทย ผ่านสินค้า GI เหล่านี้ด้วย
         
ในปี 2568 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรไปสหภาพยุโรป สูงถึง 138,220 ล้านบาท โดยสินค้าเกษตรไทย เช่น ผลไม้ ข้าว ยางพารา และอาหารแปรรูป ยังคงเป็นสินค้าหลักที่ส่งออกสู่ตลาดยุโรป โดยมีทุเรียน ข้าว และมะพร้าว เป็น GI ที่มีศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งหากได้รับการขึ้นทะเบียน GI ในยุโรป จะช่วยต่อยอดทางการตลาด และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเหล่านี้ได้ ปัจจุบันไทยมีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI จำนวน 267 รายการ โดยเป็น GI ของต่างประเทศ เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น อินเดีย เวียดนาม รวม 24 รายการ และเป็น GI ไทย 243 รายการ มูลค่าตลาดสินค้า GI ไทยโดยรวม 114,000 ล้านบาท โดยมีสินค้า GI ไทยที่กำลังเป็นที่นิยม เช่น ทุเรียนหมอนทองระยอง ทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด ข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ ข้าวหอมมะลิพะเยา ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ สับปะรดตราดสีทอง เหล้าแป้ กุ้งก้ามกรามบางแพ ส้มสายน้ำผึ้งฝาง มะพร้าวทับสะแก เป็นต้น

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง