
“นภินทร”นำทีมพาณิชย์ลุยด่านบ่อเต็น สปป.ลาว ด่านโม่ฮาน จีน เผยทั้งสองด่านพร้อมแล้ว รับฤดูกาลทุเรียนไทย ทั้งเพิ่มคน เพิ่มเวลาทำงาน เพิ่มช่อง เพิ่มความถี่ส่งตัวอย่างไปตรวจ คาดช่วยส่งออกทุเรียนไทยไปจีนปีนี้คล่องตัว
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำทีมพาณิชย์เดินทางต่อไปยังด่านบ่อเต็น-โม่ฮาน ชายแดนสปป.ลาว-จีน สำรวจเส้นทางการขนส่งผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน หลังจากได้ดูเส้นทางโลจิสติกส์และหารือผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายใหญ่ที่สปป.ลาว ไปแล้ว โดยเส้นทางการขนส่งทางบกที่ด่านบ่อเต็น-โม่ฮาน ชายแดนสปป.ลาว-จีน เป็นเส้นทางที่ผู้ประกอบการไทยนิยมใช้ โดยเฉพาะการส่งผลไม้ที่มีจุดหมายไปยังตอนใต้ และตะวันตกเฉียงใต้เข้าที่มณฑลยูนนานของจีน เพื่อดูความพร้อม หารือการอำนวยความสะดวก และแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่มี รองรับฤดูผลไม้ไทยที่กำลังจะออกสู่ตลาด
ทั้งนี้ ในปี 2566 ที่ผ่านมา มีมูลค่านำเข้าสินค้าผ่านด่าน 77,000 ล้านบาท และปี 2567 มีมูลค่านำเข้าเพิ่มสูงถึง 112,000 ล้านบาท และปี 2568 คาดว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะฤดูกาลผลผลิตทุเรียนของไทย ในช่วงเดือน พ.ค.นี้ ประเมินว่าจะมีตู้ขนส่งทุเรียนผ่านด่านบ่อเต็น-โม่ฮาน เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 400 ตู้ต่อวัน
“จากการพูดคุยกับผู้บริหารด่านบ่อเต็น พบว่า ด่านมีความพร้อมและยินดีที่จะอำนวยความสะดวกให้สินค้าเกษตรผ่านแดน โดยเฉพาะผลไม้สดที่มาจากไทย โดยให้ผ่านช่องทางเฉพาะ เพื่อลดความแออัดจากตู้สินค้าอื่น และเมื่อถึงช่วงการขนส่งทุเรียนของไทย ด่านบ่อเต็น จะมี Contract Point ในการติดต่อประสานงานกับทางด่านโม่ฮานอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้อย่างทันที และยังได้มีเตรียมสถานที่สำหรับจอดพักรถบรรทุก ซึ่งบรรจุได้ประมาณ 1200 ตู้ รวมทั้งได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการจ่ายค่าธรรมเนียมของผู้ประกอบการมีความสะดวกรวดเร็วทำให้เกิดความคล่องตัวในการขนส่งสินค้าผ่านแดนมากขึ้น โดยในช่วงพีคสุดที่หน้าด่าน จะเร่งการตรวจโดยใช้ระยะเวลาให้สั้นลง จะมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ และขยายระยะเวลาทำงานเพื่อให้ทันต่อปริมาณรถบรรทุก อีกทั้งยังจะเพิ่มอุปกรณ์ที่จะทำให้การตรวจสอบหน้าด่านทำได้โดยเร็วที่สุด“นายนภินทรกล่าว
ส่วนด่านโม่ฮาน ก็มีความพร้อมสำหรับการเตรียมรับตู้ขนส่งของไทยที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้นแล้ว โดยด่านยินดีที่จะอำนวยความสะดวกในการขนส่งตู้ของไทยเช่นเดียวกัน และในช่วงการตรวจต่าง ๆ ด่านโม่ฮานจะเพิ่มกำลังคน เพิ่มอุปกรณ์ เพิ่มเวลาในการทำงาน เพื่อลดความแออัดบริเวณหน้าด่าน เพิ่มความถี่ในการส่งตัวอย่างผลไม้ไปตรวจที่ Lab และเพิ่มช่องทางการเข้าด่านตรวจ ที่ปัจจุบันมี 10 ช่องทาง จะขยายเป็น 12 ช่องทาง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายช่องทาง คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้งานภายในปีนี้ ซึ่งถือว่าทั้งสองด่านนี้มีความพร้อมในการช่วงทุเรียนไทยาที่จะมาถึงอย่างแน่นอน
นายนภินทรกล่าวว่า ยังได้นำคณะ เข้าพบหารือผู้บริหารสิบสองปันนา ซึ่งเป็นเขตที่ดูแลการเข้าออกของด่านโม่ฮาน และด่านอื่นที่มีความสำคัญทางการค้าของจีน โดยทางได้หารือถึงการเตรียมความพร้อมรองรับทุเรียนไทย ซึ่งผู้บริหารสิบสองปันนา ยินดีที่จะอำนวยความสะดวกให้ไทย เพื่อเป็นการเชื่อมโยงการค้าระหว่างกัน โดยสิบสองปันนาต้องการขยายการค้าโดยการเพิ่มปริมาณการนำเข้าทุเรียนของไทย โดยปัจจุบันทุเรียนไทย เป็นสินค้าอันดับ 1 ในการนำเข้า จึงขอให้ฝ่ายไทยให้ความสำคัญในการปลูก และควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งตนได้ให้ความมั่นใจในส่วนนี้ว่าไทยมีมาตรการ 4 ไม่ กับทุเรียน คือ ไม่ตัดทุเรียนอ่อน ไม่มีหนอนหรือแมลง ไม่สวมสิทธิ์ทุเรียนนอกมาขาย และไม่มีสี-ไม่มีสารเคมีต้องห้าม
“ได้ย้ำว่าสารตกค้างต้องห้ามในทุเรียนไทย จะไม่มีแล้วแน่นอน เพราะได้ทำ Big Cleaning ที่เป็นการล้างสารตกค้างในจุดรวบรวมทั้งหมดก่อนที่จะรับผลผลิต และทุเรียนในล็อตที่ผ่านมา เดือนม.ค.2568) ที่ผ่านด่านโม่ฮาน ก็ได้มีการตรวจตู้ทุเรียนของไทย ไม่พบสารตกค้างที่เป็นอันตรายแล้ว ด้วยเหตุดังกล่าว จึงขอให้จีนเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำเข้าทุเรียนไทย ขอให้มีการปลดล็อกการตรวจสารตกค้างต้องห้าม จากการตรวจ 100% เหลือเพียงสุ่มตรวจ 30% ซึ่งหากเกิดความร่วมมือกันจะทำให้ชาวจีนที่นิยมบริโภคทุเรียนไทย ได้ทุเรียนที่มีคุณภาพของไทยอย่างแน่นอน ซึ่งทางผู้บริหารสิบสองปันนาก็ยินดีรับข้อเสนอไปพิจารณา“ นายนภินทรกล่าว
โดยภายหลังการหารือ ทั้งคณะได้เดินสำรวจตลาดค้าขายในสิบสองปันนา พบว่าทุเรียนไทยได้รับความนิยมของชาวสิบสองปันนาและนักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างมาก เห็นได้จากปัจจุบัน แม้ทุเรียนหมอนทองของไทยยังไม่ออก ก็มีทุเรียนไทยพันธุ์พวงมณีวางขายในตลาดจำนวนมาก จึงเชื่อว่าฤดูกาลทุเรียนที่กำลังจะนำเข้ามาจีน จะได้รับการตอบรับที่ดี และเชื่อว่าเป็นปีทองของทุเรียนไทยอีกปีหนึ่ง
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง