​“พาณิชย์”วิเคราะห์เกษตร-อุตสาหกรรมเกษตรปี 67 ผลไม้-อาหารทะเล แชมป์ส่งออกสูงสุด

img

“พาณิชย์” วิเคราะห์ปี 67 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มูลค่า 52,185.0 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,835,800 ล้านบาท เพิ่ม 6% เผยผลไม้ นำโด่งกลุ่มสินค้าเกษตร ตามด้วยข้าว ยาง ไก่ มัน ขายไปจีนสูงสุด ตามด้วยญี่ปุ่น สหรัฐฯ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร อาหารทะเลนำโด่ง ตามด้วยอาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี น้ำตาลทราย ผลไม้กระป๋อง ขายไปสหรัฐฯ สูงสุด ตามด้วยจีน ญี่ปุ่น กัมพูชา เมียนมา แนะพึ่งสินค้าส่งออกไม่กี่ชนิด และพึ่งตลาดส่งออก ไม่กี่ตลาด ควรเพิ่มชนิดส่งออก และขยายตลาดส่งออกให้มากขึ้น   
         
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดย สนค. ได้ทำการวิเคราะห์สถิติการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรไทยในปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่า มีการส่งออกได้มูลค่า 52,185.0 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,835,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% และนับเป็นครั้งแรกที่ไทยมีการส่งออกมูลค่าเกิน 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 17.36% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย ที่ทำได้ 300,529.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 10,548,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4%
         
ทั้งนี้ ในการส่งออกดังกล่าว แยกเป็นการส่งออกสินค้าเกษตร (สินค้ากสิกรรม สินค้าปศุสัตว์ และสินค้าประมง) มูลค่า 28,827.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,014,588 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีมูลค่า 26,814.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 923,999 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่อง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2567 โดยสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง 6,510.6 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 22.58% ของมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตร 2.ข้าว 6,443.9 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 22.32% 3.ยางพารา 4,992.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 17.32% 4.ไก่ 4,313.7 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 14.96% และ 5.ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 3,133.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 10.87% รวม 5 อันดับแรก มีสัดส่วน 88.06% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด
         
สำหรับตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.จีน 10,054.7 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 34.88% 2.ญี่ปุ่น 3,471.9 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 12.04% 3.สหรัฐฯ 1,899.7 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 6.59% 4.มาเลเซีย 1,215.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 4.22% และ 5.อินโดนีเซีย 1,154.8 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 4.01% รวม 5 อันดับแรก มีสัดส่วน 61.73% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด
         


สินค้าเกษตรที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงสุด 5 อันดับแรก โดยพิจารณาจากสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 20 อันดับแรก ได้แก่ 1.สัตว์น้ำจำพวกกุ้ง ปู หอย และปลาหมึก ขยายตัว 87.1% 2.ยางพารา ขยายตัว 36.8% 3.ปลาสด แช่เย็น แช่แข็ง 26.6% 4.ข้าว 25.0% และ 5.เครื่องเทศและสมุนไพร 23.1% และตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงสุด 5 อันดับแรก พิจารณาจากตลาดที่มีมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรสูงที่สุด 20 อันดับแรก ได้แก่ 1.เวียดนาม ขยายตัว 78.9% 2.เซเนกัล 69.7% 3.อิรัก 44.9% 4.ฟิลิปปินส์ 41.7% และ 5.อิตาลี 35.8%
         
ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร มูลค่า 23,357.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 821,212 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีมูลค่า 22,440.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 772,669 ล้านบาท โดยสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 3,845.2 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 16.46% ของมูลค่าส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร 2.อาหารสัตว์เลี้ยง 3,029.3 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 12.97% 3.ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ 2,677.2 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 11.46% 4.น้ำตาลทราย 2,382.7 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 10.2 % และ 5.ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 2,120.9 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 9.08% รวม 5 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วน 60.17% ของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรทั้งหมด
         
ตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.สหรัฐฯ 3,437.9 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 14.72% 2.จีน 2,304.0 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 9.86% 3.ญี่ปุ่น 1,712.9 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 7.33% 4.กัมพูชา 1,625.1 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 6.96% และ 5.เมียนมา 1,071.8 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 4.59% รวม 5 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วน 43.46% ของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรทั้งหมด
         
สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงสุด 5 อันดับแรก พิจารณาจากสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 20 อันดับแรก ได้แก่ 1.อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัว 22.9% 2.กากน้ำตาล 22.2% 3.นมและผลิตภัณฑ์นม 21.3% 4.ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 18.3% และ 5.โกโก้และของปรุงแต่ง 16.0% และตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงสุด 5 อันดับแรก พิจารณาจากตลาดที่มีมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรสูงสุด 20 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขยายตัว 27.6% 2.แคนนาดา 21.6% 3.ออสเตรเลีย 19.9% 4.สหรัฐฯ 19.7% และ 5.สหราชอาณาจักร 16.5%
         


นายพูนพงษ์กล่าวว่า สินค้าเกษตรที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก มีสัดส่วนถึง 88.06% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก มีสัดส่วน 60.17% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า ไทยพึ่งพาการส่งออกสินค้าไม่กี่รายการ อาทิ ผลไม้ ข้าว ยางพารา ไก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และอาหารสัตว์เลี้ยง ไทยจึงควรนำเสนอผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรที่หลากหลายขึ้น และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น
         
ส่วนตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่ไทยพึ่งพาสูง ได้แก่ จีน สัดส่วน 23.68% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรทั้งหมดของไทย สหรัฐฯ สัดส่วน 10.23% และญี่ปุ่น สัดส่วน 9.94% โดยทั้ง 3 ตลาดมีสัดส่วน 43.85% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรทั้งหมดของไทย จึงควรหาตลาดส่งออกใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาบางตลาดมากเกินไป รวมทั้งติดตามมาตรการทางการค้าจากจีนและสหรัฐฯ จากสงครามการค้ารอบใหม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย รวมทั้งต้องเร่งส่งเสริมและผลักดันให้ไทยส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่าสูงและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มขึ้น อาทิ อาหารแปรรูปมูลค่าสูง สินค้าเกษตรอัตลักษณ์ และสินค้าเกษตรสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)
         
“สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เป็นสินค้าสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันสนับสนุนให้เศรษฐกิจภาคเกษตรเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการนำผลการวิจัยและเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และประเมินความเสี่ยงเพื่อลดผลกระทบต่าง ๆ อาทิ สภาพภูมิอากาศ และสงครามการค้า ทำการตลาดและเจาะตลาดใหม่ ควบคู่กับการรักษาตลาดเดิม รวมทั้งติดตามมาตรการการนำเข้าของประเทศคู่ค้าเพื่อวางแผนปฏิบัติตามได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง รวมทั้งต้องพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร การเก็บรักษา และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อยกระดับการส่งออกภาคเกษตรให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”นายพูนพงษ์กล่าว
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง