​มิจฉาชีพเหิม! เรียกเงินแก๊งนอมินี อ้างเคลียร์อนุฯ ป้องปรามได้ “นภินทร”ลั่นไม่มีทาง

img

“นภินทร”เผยมิจฉาชีพสุดเหิม อ้างตัวเคลียร์คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าวได้ และเรียกรับผลประโยชน์จากนิติบุคคลเสี่ยงเป็นนอมินี ลั่นอย่าหลงเชื่อ ไม่มีแน่นอน ยันเดินหน้ากวาดล้างให้สิ้นซาก เหตุสร้างความเสียหายต่อธุรกิจ เศรษฐกิจ และประเทศไทย
         
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สืบทราบว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคล อ้างตัวว่าสามารถเจรจากับคณะอนุกรรมการฯ ที่มีความเสี่ยงเป็นนอมินี และนิติบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นนอมินีแล้ว (กรณีคนไทยทำนิติกรรมอำพราง เพื่อช่วยเหลือให้คนต่างด้าวเข้ามาทำธุรกิจในไทยโดยไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542) พร้อมเรียกรับเงิน หรือผลประโยชน์จากนิติบุคคลเหล่านั้น
         
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า คณะอนุกรรมการฯ ที่มีผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ ไม่ว่าจะเป็นกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมการจัดหางาน กรมการท่องเที่ยว กรมที่ดิน และกรมสรรพากร ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ใด ๆ เพื่อจบปัญหานี้ และคณะอนุกรรมการฯ ล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความน่าเชื่อถือ และทำงานเพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โปร่งใส เพราะถือว่า นอมินี ทำลายธุรกิจ และเศรษฐกิจไทย
         
“ใครที่ถูกเรียกรับเงินหรือผลประโยชน์ โดยอ้างว่าจะนำมาเคลียร์กับคณะอนุกรรมการฯ เพื่อให้จบปัญหานอมินี ขอให้รู้ว่ากำลังถูกหลอกและเรียกตบทรัพย์ เพราะคณะอนุกรรมการฯ ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์อย่างแน่นอน และตั้งเป้าหมายว่าจะกวาดล้างนอมินีให้หมดไปจากประเทศไทย เพราะนอมินี คือ การที่คนต่างด้าวเข้ามาครอบงำธุรกิจไทย สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจไทย เศรษฐกิจไทย และประเทศไทย”นายนภินทรกล่าว
         


สำหรับคนไทยคนใดที่กำลังมีพฤติกรรมเป็นนอมินีของต่างชาติ ขอให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวเสีย และแจ้งเบาะแสข้อมูลต่าง ๆ มายังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะกันตัวเป็นพยาน และโทษหนักจะได้กลายเป็นเบา ส่วนคนที่ได้รับการทาบทาม ชักชวนว่าจ้างให้เป็นนอมินี ขอให้เลิกคิด เพราะค่าตอบแทนน่าจะไม่คุ้มกับโทษอาญา กรณีนอมินี มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 1 แสนถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปฏิบัติคำสั่งศาล ต้องระวางโทษปรับวันละ 10,000-50,000 บาท จนกว่าจะยุติการฝ่าฝืน
         
ก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้ประชุมนัดแรก เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งมีข้อสรุปแก้ปัญหาใน 3 ระยะ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยแนวทางแก้ไขปัญหาจะนำเสนอผลสรุปต่อคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทระนงพาณิชย์ เป็นประธานพิจารณาเร็ว ๆ นี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป
         
โดยระยะสั้น ที่จะเห็นผลภายใน 1-3 เดือน จะใช้อำนาจของทุกหน่วยงานในการตรวจสอบ สืบสวน สอบสวนบุคคล หรือธุรกิจเสี่ยง และดำเนินคดี รวมถึงแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแต่ละหน่วยงาน เพื่อสร้างฐานข้อมูลเดียวกัน ที่จะใช้สืบสวน สอบสวน ตรวจสอบหาธุรกิจที่กระทำผิดและเข้าข่ายนอมินี ระยะกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า อยู่ระหว่างจัดทำระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคค ที่มีผลต่อการการดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย (IBAS) เพื่อจับผิดนิติบุคคลเสี่ยง คาดว่า จะเสร็จในไม่เกิน 6 เดือน และระยะยาว จะแก้ไขกฎหมายสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่รับจดทะเบียนบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงตามกฎหมายของปปง. เช่น อาชญากรข้ามชาติ มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัท ที่จะขอจดทะเบียนจัดตั้ง จากปัจจุบัน ที่ต้องรับจดให้ เพราะตามอำนาจหน้าที่ จะไม่รับจดเฉพาะบุคคลล้มละลาย และบุคคลไร้ความสามารถเท่านั้น โดยการแก้ไขกฎหมายน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี รวมทั้งอาจเพิ่มบทลงโทษกรณีการเป็นนอมินีให้มากขึ้น เพื่อให้เกรงกลัวการกระทำผิด

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง