​“พาณิชย์”ระดมสมอง 50 หน่วยงาน ทำแผนพัฒนาและขับเคลื่อนการค้าธุรกิจ SME

img

สนค. จัดประชุมร่วมกับ 50 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน ระดมสมองจัดทำข้อเสนอแนะการพัฒนาและขับเคลื่อนการค้าของธุรกิจ SME ไทย ทั้งการส่งเสริมการค้าในประเทศ ส่งเสริมการส่งออก การเสริมทักษะที่จำเป็น และการพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เตรียมเสนอแผนต่อสาธารณะ ก.ย.นี้ ก่อนสรุปเสนอสภาพัฒน์ ครม. เพื่อขอความเห็นชอบและประกาศใช้ต่อไป
         
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้จัดการประชุมร่วมกับ 50 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการเงิน เพื่อร่วมกันให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อแนวทางการพัฒนาและขับเคลื่อนการค้าของธุรกิจ SME ไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ประเด็นสำคัญที่อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ.2568–2570 โดยผลที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานเพื่อพลิกโฉมธุรกิจ SME ไทย ให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในยุคการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  
         
ทั้งนี้ การประชุมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นในส่วนภูมิภาคครบทั้ง 5 ภาคไปแล้ว ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ เมื่อช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.
         
สำหรับแผนการพัฒนา SME ที่ประชุมได้เห็นชอบ 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย 1.การส่งเสริมการค้าภายในประเทศ โดยการพัฒนาสินค้าและบริการของธุรกิจ SME ให้มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค การส่งเสริมการค้าผ่านเส้นทางท่องเที่ยวและพื้นที่เชิงพาณิชย์ต่าง ๆ ตลอดจนการส่งเสริมการใช้ระบบการชำระเงินดิจิทัลทั้งระบบภายในประเทศและระหว่างประเทศให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ

2.การส่งเสริมโอกาสการส่งออกของ SME โดยการพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการให้อยู่ในระดับสากล การสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าและบริการ การผลักดันการขึ้นจำหน่ายสินค้าและบริการบนช่องทางออนไลน์ การส่งเสริมให้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้ FTA การเชื่อมโยงข้อมูลหรือความรู้ที่สำคัญมารวมไว้ในที่เดียวให้เสมือนเป็นห้องสมุดด้านการส่งออก ตลอดจนการพัฒนาบทบาทของหน่วยงานภาครัฐในส่วนภูมิภาคให้มีภารกิจด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น



3.การพัฒนาและส่งเสริมทักษะของผู้ประกอบการ SME ครอบคลุมทั้งทักษะการดำเนินธุรกิจ ความสามารถในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล การปรับตัวต่อสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะการปรับตัวต่อมาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษี

4.การพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจการค้าของธุรกิจ SME โดยพัฒนาระบบงานบริการของหน่วยงานภาครัฐให้เป็นระบบดิจิทัลเชื่อมโยงกัน โดยมุ่งประโยชน์ไปยังการอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนการดำเนินงานให้แก่ธุรกิจ SME

“สนค. จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับ นำไปพัฒนาและปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านการค้าและขับเคลื่อนธุรกิจ SME ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยจะนำเสนอแผนปฏิบัติการต่อสาธารณชน หรือจัดงาน Public Hearing ในช่วงกลางเดือน ก.ย.2567 และจะเสนอแผนดังกล่าวต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ เพื่อพิจารณากลั่นกรอง ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบและประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป”นายพูนพงษ์กล่าว

ปัจจุบัน ธุรกิจ SME ถือเป็นแกนหลักสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 99 ของจำนวนธุรกิจภายในประเทศทั้งหมด และเป็นแหล่งการจ้างงานกว่าร้อยละ 70 ของจำนวนแรงงานทั้งประเทศ แต่ธุรกิจ SME ยังคงมีประเด็นความท้าทายที่ภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และร่วมกันผลักดันการพัฒนาและส่งเสริมให้ธุรกิจ SME ดำเนินธุรกิจได้เท่าทันกับสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของการกำหนดแผนการพัฒนาการค้าของธุรกิจ SME โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ธุรกิจ SME สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้เป็นสัดส่วน 40% ต่อ GDP และมีมูลค่าส่งออกอยู่ที่ 20% ต่อมูลค่าส่งออกรวมภายในปี 2570  

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง