กรมการค้าต่างประเทศเผยส่งออกข้าวไทย 6 เดือน ปี 67 ทะลุ 5.08 ล้านตัน เพิ่ม 25.12% มูลค่ากว่า 1.17 แสนล้านบาท เพิ่ม 55.50% ได้รับผลดีจากผู้นำเข้ามีความต้องการเพิ่ม ทั้งการบริโภคและเก็บสต๊อก อินเดียยังคุมส่งออก และค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำแข็งขันได้ดี พร้อมปรับคาดการณ์ส่งออกทั้งปีใหม่เป็น 8.2 ล้านตัน หลังหารือสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุมีแผนจัดกิจกรรมกระตุ้นการส่งออกช่วงที่เหลือเต็มสูบ ชี้ต้องจับตามาตรการอินเดีย หลายประเทศปลูกข้าวได้เพิ่ม
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 6 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) มีปริมาณ 5.08 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 25.12% มูลค่า 117,836 ล้านบาท (ประมาณ 3,304 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 55.50% โดยได้รับผลดีจากผู้นำเข้าข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อใช้บริโภคและเก็บเป็นสต็อกเพื่อความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับอินเดียยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกข้าว และค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่ประมาณ 36–37 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้
ทั้งนี้ กรมยังได้ประชุมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อหารือแนวโน้มสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 พบว่า มีปัจจัยบวกต่อการส่งออกข้าวไทย เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าสำคัญอย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวจากเอกชนผู้ส่งออกข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อและภัยแล้ง โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้มีคำสั่งปรับลดอัตราภาษีนำเข้าข้าวจากเดิม 35% เหลือ 15% จนถึงปี 2571 เพื่อควบคุมแรงกดดันเงินเฟ้อของสินค้าข้าวภายในประเทศ และคาดว่าในปีนี้ฟิลิปปินส์มีแนวโน้มนำเข้าข้าวสูงถึง 4.70 ล้านตัน ขณะที่อินโดนีเซียมีแนวโน้มนำเข้าข้าวประมาณ 3.60–4.30 ล้านตัน ขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิต จึงเป็นโอกาสในการส่งออกข้าวของประเทศผู้ส่งออก โดยเฉพาะไทย
ขณะเดียวกัน ยังมีแรงหนุนจากปริมาณผลผลิตข้าวนาปีของไทยที่จะออกสู่ตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำสำหรับเพาะปลูกเพิ่มขึ้น จากภาวะเอลนีโญคลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาข้าวไทยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงและแข่งขันได้มากขึ้น
“กรมและสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ได้เห็นตรงกัน และปรับคาดการณ์การส่งออกข้าวไทยปี 2567 เพิ่มขึ้นจากเดิมในช่วงต้นปีที่คาดการณ์ไว้ที่ปริมาณ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเป็น 8.2 ล้านตัน โดยประเมินว่าในช่วงที่เหลืออีก 6 เดือน การส่งออกข้าวจะทำได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5 แสนตันเป็นอย่างน้อย ทำให้เป้าใหม่ที่ตั้งไว้ มีโอกาสทำได้สูง หรือมากกว่า”นายรณรงค์กล่าว
นายรณรงค์กล่าวว่า สำหรับผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของไทย ยังคงต้องติดตามมาตรการการส่งออกข้าวของอินเดีย ซึ่งรัฐบาลอินเดียอาจผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวก่อนผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตหลักจะออกสู่ตลาดในเดือน ต.ค.2567 อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตข้าวของประเทศผู้ส่งออกข้าว ได้แก่ เวียดนาม ปากีสถาน เมียนมา และกัมพูชา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นและมีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง รวมทั้งมีปัจจัยเสี่ยงจากความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ากลุ่มพลังงานและสถานการณ์ความผันผวนของค่าระวางเรือที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567
ส่วนการส่งเสริมตลาด เพื่อกระตุ้นให้ข้าวไทยอยู่ในกระแสและเป็นที่จดจำ เพื่อให้ผู้นำเข้านึกถึงการนำเข้าข้าวจากไทยเป็นลำดับต้น กรมจะเดินหน้าตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้ “รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ ในการส่งออกไปต่างประเทศ” โดยในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปีนี้ มีแผนจัดกิจกรรมผลักดันการส่งออกข้าวไทย ประกอบด้วย การจัดงาน Thai Rice Networking Forum 2024 เพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญในวงการค้าข้าวโลกมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวโลกและกระชับความสัมพันธ์กับเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าข้าว การจัดงาน Thailand Rice Convention (TRC) สัญจร ลงพื้นที่จัดสัมมนาถ่ายทอดข้อมูลแนวโน้มความต้องการข้าวในตลาดโลกให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตข้าวได้ตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจัดการพบหารือกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวสำคัญ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง