​กรมพัฒน์ฯ เตือนนิติบุคคล 835,011 ราย ส่งงบการเงิน ภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตือนนิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.66 จำนวน 835,011 ราย ต้องนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing ภายในวันที่ 31 พ.ค.67 และต้องเช็กสถานะผู้ทำบัญชี ผู้สอบบัญชีว่ามีสถานะ “คงอยู่” หรือไม่ พร้อมฝากถึงผู้ทำบัญชี ผู้สอบบัญชี ให้แจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชีและสอบบัญชี ขอผู้ทำบัญชีตรวจสอบสถานะของการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี และอัปเดตสถานะผู้ทำบัญชีให้เป็นปัจจุบัน  
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดือน พ.ค. ของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่มีนิติบุคคลนำส่งงบการเงินต่อกรมเป็นจำนวนมาก และในปีนี้นิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2566 จำนวน 835,011 ราย ต้องนำส่งงบการเงินต่อกรม ผ่านระบบ DBD e-Filing ภายในวันที่ 31 พ.ค.2567 โดยในการนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing นิติบุคคลต้องระบุชื่อของผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีในแบบนำส่งงบการเงิน หรือ ส.บช.3 ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ห้ามมิให้แอบอ้างนำชื่อของผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีอื่นที่ไม่ได้ปฏิบัติงานจริงใส่ในแบบ ส.บช.3 มิเช่นนั้นจะได้รับโทษทางกฎหมาย

ทั้งนี้ ผู้ทำบัญชีต้องแจ้งรายชื่อนิติบุคคลที่ตนรับทำบัญชีให้ในระบบ e-Accountant ภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มทำบัญชี ซึ่งผู้ทำบัญชี 1 คน สามารถจัดทำบัญชีให้นิติบุคคล ได้ไม่เกิน 100 รายต่อปี หากเกินกว่านั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย และเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีมีโทษตั้งแต่ตักเตือนจนถึงเพิกถอนการขึ้นทะเบียนหรือสมาชิก ซึ่งจะทำให้ผู้ทำบัญชีไม่สามารถปฏิบัติงานได้อีก สำหรับผู้สอบบัญชีจะต้องแจ้งรายชื่อนิติบุคคลที่ตนรับสอบบัญชีที่เว็บไซต์ของสภาวิชาชีพบัญชี และต้องมีสถานะ “คงอยู่” ด้วยเช่นเดียวกัน มิเช่นนั้นนิติบุคคลจะไม่สามารถนำส่งงบการเงินต่อกรมได้
         


สำหรับสถานะของผู้ทำบัญชีที่ปรากฏในระบบ DBD e-Filing แบ่งออกเป็น 6 สถานะ ดังนี้ 1.คงอยู่ หมายถึง สถานะปกติที่สามารถจัดทำบัญชีได้ 2.ขาดคุณสมบัติ หมายถึง ขาดต่ออายุสมาชิกสภาฯในระบบ e-Accountant ให้ผู้ทำบัญชีตรวจสอบสถานะของการเป็นสมาชิกสภาฯ ในปีปัจจุบัน 2.1 กรณีต่ออายุสมาชิกสภาฯ แล้ว ให้ผู้ทำบัญชีเข้าใช้งานระบบ e-Accountant เพื่ออัปเดตสถานะของการเป็นสมาชิกสภาฯ 2.2 กรณียังไม่ได้ต่ออายุสมาชิกสภาฯ ให้ผู้ทำบัญชีรีบดำเนินการต่ออายุสมาชิกให้เรียบร้อย แล้วดำเนินการตาม 2.1 เมื่อกลับเข้าสู่ระบบ DBD e-Filing สถานะผู้ทำบัญชีจะแสดง “คงอยู่” 3.ยกเลิกการแจ้งเป็นผู้ทำบัญชี หมายถึง ผู้ทำบัญชีได้ยกเลิกการเป็นผู้ทำบัญชีกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว 4.พักการขึ้นทะเบียน สมาชิก หมายถึง ผู้ทำบัญชีอยู่ระหว่างถูกลงโทษพักการประกอบวิชาชีพทำบัญชีจากคณะกรรมการจรรยาบรรณ 5.เพิกถอนการขึ้นทะเบียน สมาชิก หมายถึง ผู้ทำบัญชีถูกลงโทษห้ามประกอบวิชาชีพทำบัญชีจากคณะกรรมการจรรยาบรรณ และ 6.ถึงแก่กรรม

ดังนั้น ก่อนนำส่งงบการเงินขอให้นิติบุคคลเช็กสถานะของผู้ทำบัญชีก่อนว่ามีสถานะคงอยู่หรือไม่ หากไม่ใช่สถานะดังกล่าว ต้องแจ้งให้ผู้ทำบัญชีแก้ไขให้ถูกต้อง เพื่อให้งบการเงินมีความถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสีย คู่ค้า และผู้สนใจที่จะร่วมทุนกับธุรกิจของท่าน
         
ส่วนนิติบุคคลที่จัดทำงบการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ หรือ TFRS for NPAEs ซึ่งผลใช้บังคับสำหรับงบการเงินที่มีรอบปีเริ่มต้นในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค.2566 นั้น นิติบุคคลอาจได้รับผลกระทบทำให้งบการเงินไม่สามารถนำส่งผ่านระบบ DBD e-Filing ได้ เนื่องจากรายการหรือรูปแบบในงบการเงินแตกต่างจากประกาศกรม เรื่อง กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน พ.ศ.2554 กรมได้เพิ่มช่องทางในการนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing โดยให้อัปโหลดงบการเงินแบบ PDF แทนการกรอกข้อมูลในระบบ DBD e-Filing โดยกิจการที่สามารถส่งงบการเงินแบบ upload file ได้ โดยต้องเป็นไปตาม 5 เงื่อนไข ดังนี้ 1.เลือกนำเสนองบการเงินของกลุ่มกิจการ โดยการจัดทำงบการเงินรวม หรืองบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย 2.เลือกนำเสนองบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จแทนงบกำไรขาดทุน 3.เป็นธุรกิจที่มีกิจกรรมทางการเกษตร มีสัตว์หรือพืชที่มีชีวิตแสดงเป็นรายการสินทรัพย์ชีวภาพ ณ วันสิ้นรอบปีบัญชี 4.มีการรวมธุรกิจ แสดงเป็นรายการค่าความนิยม ณ วันสิ้นรอบปีบัญชี และ 5.มีบางรายการที่นำเสนอตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน พ.ศ.2566


 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง