“ภูมิธรรม” นำคณะผู้บริหารพาณิชย์ เดินทางสำรวจด่าน “บ่อเต็น-โม่ฮาน” ดูความพร้อมในการรองรับการส่งออกผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.นี้ พร้อมถกผู้บริหารสิบสองปันนา ขอพิจารณาเปิดตลาดอินทผาลัม สละ และโคมีชีวิตให้ไทย และหารือนักธุรกิจ ร่วมมือในการทำธุรกิจและผลักดันนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่ม

นายวิทยากร มณีเนตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 27-29 เม.ย.2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปสำรวจด่านบ่อเต็นของ สปป.ลาว และด่านโม่ฮาน ของจีน ในการรองรับการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะผลไม้ของไทยในฤดูกาลผลิต 2567 ที่จะออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.2567 เป็นต้นไป และการขนส่งจะผ่านเส้นทาง R3A ซึ่งเป็นทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างไทย-ลาว-จีน เป็นเส้นทางที่มีระยะทางสั้นที่สุด โดยช่องทาง R3A นี้ มีระยะทางรวมประมาณ 1240 กิโลเมตร จากเชียงรายสู่คุณหมิง และเป็นเส้นทางกระจายสินค้าไปจีนที่สำคัญจากทุกภูมิภาคของไทย ทั้งทุเรียน มังคุด ลำไย รวมถึงหม้อแปลง และแร่เหล็ก

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ยังมีกำหนดการที่จะเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์ และติดตามความคืบหน้าการขยายโอกาสทางการค้ากับผู้บริหารระดับสูงของมณฑลยูนนาน ประกอบด้วยผู้ว่าการเขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน และนายกเทศมนตรีเมืองจิ่งหง เขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน โดยจะผลักดันให้สำนักงานศุลกากรจีน (GACC) พิจารณาตอบกลับฝ่ายไทยสำหรับข้อเสนอการเปิดตลาดอินทผาลัมและสละ และประเด็นส่งออกโคมีชีวิตไทยไปยังจีน
         


ขณะเดียวกัน จะไปเร่งรัดการขยายตลาด หาช่องทางการตลาดให้กับสินค้าไทย โดยจะร่วมหารือกับนักธุรกิจรายสำคัญของสิบสองปันนา ซึ่งมีความสนใจที่จะร่วมลงทุนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ท่องเที่ยว พัฒนาด้านเทคโนโลยีเทคโนโลยีกับนักธุรกิจไทย รวมไปถึงสนใจที่จะนำเข้าสินค้าเกษตร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยด้วย
         
“นายภูมิธรรมให้ความสำคัญกับการเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าไทย รวมไปถึงอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการไทย ออกไปทำตลาดในต่างประเทศ โดยการเดินทางเยือนสิบสองปันนาในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการไทยในการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งบริเวณด่านทั้งในจีนและลาว และการพบผู้บริหารระดับสูงของยูนนาน จะช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ที่สำคัญของไทยต่อไปในอนาคต“นายวิทยากรกล่าว