กรมการค้าต่างประเทศติดตามผลส่งออก “น้ำตาลแปรรูป” ตลาดจีน ปี 66 พบเติบโตโดดเด่น มูลค่าส่งออกเฉียด 3 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 103.14% จนครองตลาดอันดับ 1 และช่วง 10 ปีย้อนหลัง ก็โตสูงเฉลี่ยปีละ 144.84% เผยได้แรงหนุนจาก FTA อาเซียน-จีน ที่สินค้าจากไทยไม่ต้องเสียภาษี จากอัตราปกติ 30% ชี้เป้าตลาดอาเซียน ก็มีศักยภาพ โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ เมียนมา และอินโดนีเซีย ที่ไม่ต้องเสียภาษีเช่นเดียวกัน แนะก่อนส่งออก อย่าลืมใช้สิทธิ์ FTA ล่าสุดเปิดให้บริการพิมพ์หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E ด้วยตนเองสำหรับส่งออกไปจีนและมาเลเซีย
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามการส่งออกสินค้าน้ำตาลแปรรูป เช่น น้ำเชื่อม น้ำผึ้งเทียม คาราเมล หรือสารให้ความหวานอื่น ๆ ที่สามารถนำไปปรุงแต่งอาหาร เครื่องดื่ม และยา พบว่า เป็นสินค้าไทยที่โดดเด่นและมีความต้องการสูงมากในตลาดจีน โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา จีนนำเข้าน้ำตาลแปรรูป มูลค่า 982.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (31,358.58 ล้านบาท) โดยไทยครองตลาดนำเข้าอันดับ 1 มูลค่า 853.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (29,807.32 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 103.14% คิดเป็นสัดส่วน 86.88% ของปริมาณที่จีนนำเข้าจากโลก และจากสถิติการนำเข้าน้ำตาลแปรรูป ย้อนหลัง 10 ปี ยังพบว่า จีนนำเข้าจากไทยมีอัตราเติบโตสูงเฉลี่ยปีละ 144.84%
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้น้ำตาลแปรรูป ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกของไทย สามารถครองอันดับ 1 ในตลาดจีนได้ คือ การได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA อาเซียน-จีน (ASEAN–China Free Trade Agreement : ACFTA) เนื่องจากสินค้าน้ำตาลแปรรูป หากไม่ใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ ACFTA จะต้องเสียภาษีศุลกากรนำเข้าปกติ (MFN Rate) ในอัตรา 30% แต่จะได้รับการยกเว้นภาษีเป็น 0% เมื่อมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form E) ที่ออกโดยกรมกำกับไปด้วย ซึ่งสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้แก่สินค้าน้ำตาลแปรรูปไทย โดยในปี 2566 มีผู้ประกอบการมาขอออกหนังสือรับรอง Form E สำหรับสินค้าน้ำตาลแปรรูป เพื่อนำไปใช้สิทธิพิเศษในขอยกเว้นภาษีนำเข้าที่จีนมูลค่า 833.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 29,099 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ 97.62%
ทั้งนี้ สินค้าน้ำตาลแปรรูป นอกจากมีโอกาสในการขยายตลาดจีนแล้ว อาเซียนก็ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีศักยภาพสูง เนื่องจากมีประชากรกว่า 6 ร้อยล้านคน และพบว่าน้ำตาลแปรรูปของไทยก็เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และที่สำคัญสินค้าน้ำตาลแปรรูปของไทยได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเป็น 0% จากอัตราภาษีปกติ (MFN Rate) อยู่ระหว่าง 3-15% โดยตลาดที่มีศักยภาพสูงในอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ เมียนมา และอินโดนีเซีย เป็นต้น
นายรณรงค์กล่าวว่า กรมได้ให้ความสำคัญกับงานบริการ โดยเฉพาะงานออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า โดยได้พัฒนาระบบการให้บริการออกหนังสือรับรองให้สอดคล้องกับบริบทการค้าสมัยใหม่ เน้นให้ผู้ส่งออกได้รับความสะดวก รวดเร็ว และลดขั้นตอนในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งในช่วงปลายปีที่ผ่านมา กรมได้อำนวยความสะดวกโดยเพิ่มช่องทางให้ผู้ส่งออกสามารถสั่งพิมพ์หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง (Self-printing) ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านระบบ DFT SMART C/O ได้แก่ Form RCEP Form AHK Form AJCEP และ Form TP และตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.2567 เป็นต้นไป จะเพิ่มการให้บริการกับ Form E (ในการส่งออกไปจีนและมาเลเซีย) และ Form AK และ C/O ทั่วไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับการส่งออกสินค้าในกลุ่มอาหารไปจีน ผู้ส่งออกต้องศึกษากฎระเบียบการนำเข้าของศุลกากรจีน (General Administration of Customs of the People’s Republic China: GACC) ที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะจีนได้กำหนดให้ผู้ที่จะส่งออกไปจีนต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผลิตสินค้าอาหารนำเข้าจากต่างประเทศตามระเบียบฉบับที่ 248 ผ่านเว็บไซต์ https://cifer.singlewindow.cn โดยสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางการค้า สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385 หรือ Line Official Account @gsp_helper
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง