​“พาณิชย์”เผยใช้สิทธิ์ GSP ส่งออก 9 เดือน สหรัฐฯ แชมป์ ส่วนประกอบแอร์นำโด่ง

img

กรมการค้าต่างประเทศเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ GSP ช่วง 9 เดือนปี 66 ตลาดสหรัฐฯ ครองแชมป์ ใช้สิทธิ์สูงถึง 2,375.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 91.66% ของมูลค่าส่งออกรวมที่ได้สิทธิ์ ส่วนสินค้าที่มีการใช้สิทธิ์สูงสุด ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศนำโด่ง ตามด้วยกรดมะนาว อาหารปรุงแต่ง กระเป๋าใส่เสื้อผ้า และถุงมือยาง
         
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ที่ไทยได้รับในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช ใน 9 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่ารวม 2,591.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 53.61% โดยตลาดที่ไทยมีการใช้สิทธิ์ GSP ส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐฯ มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์อยู่ที่ 2,375.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 91.66% ของมูลค่าการส่งออกรวมที่ใช้สิทธิ์ GSP  
         
ทั้งนี้ สินค้าดาวเด่นของไทยที่มีการใช้สิทธิ์ GSP สูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ มูลค่า 402.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กรดมะนาว หรือกรดซิทริก มูลค่า 130.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาหารปรุงแต่ง มูลค่า 110.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระเป๋าใส่เสื้อ มูลค่า 104.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถุงมือยาง มูลค่า 91.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีสินค้าสำคัญอื่น ๆ ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ์ GSP ส่งออกไปสหรัฐฯ สูง เช่น เลนส์แว่นตา ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ขนมที่ไม่มีโกโก้ผสมทำจากน้ำตาล เป็นต้น
         


“การใช้สิทธิ์ GSP ส่งออกไปสหรัฐฯ นั้น ทำให้ไทยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ส่งออกไทยได้เป็นอย่างดี”นายรณรงค์กล่าว

ส่วนโครงการ GSP ของสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) พบว่า สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูง เช่น เพชรพลอยรูปพรรณทำด้วยโลหะมีค่า (สวิตเซอร์แลนด์) หน้าปัดนาฬิกาชนิดคล็อกหรือวอตซ์ (สวิตเซอร์แลนด์) ของผสมของสารที่มีกลิ่นหอมชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหรือเครื่องดื่ม (สวิตเซอร์แลนด์) ข้าวโพดหวาน (นอร์เวย์) สูทของสตรีหรือเด็กหญิงทำด้วยขนแกะหรือขนละเอียดของสัตว์ (นอร์เวย์) ข้าวที่สีบ้างแล้วหรือสีทั้งหมด (นอร์เวย์) สับปะรดกระป๋อง ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ก และปลาโบนิโตชนิดซาร์ดา (CIS) เป็นต้น
         
อย่างไรก็ตาม กรมพร้อมให้ข้อมูลและคำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ โดยหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า สามารถค้นหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th หรือโทรสายด่วน 1385 รวมถึงไลน์แอปพลิเคชัน ชื่อบัญชี “@gsp_helper”

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง