CNA Online ขอนำเสนอข่าวเด่น ข่าวฮอต ในรอบสัปดาห์ของกระทรวงพาณิชย์ (12-18 พ.ย.2560) โดยสามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊ก commercenewsagency , เว็บไซต์ www.commercenewsagency.com , ทวิตเตอร์ @CNAOnlineTwit  

 

1.ลดราคาสินค้าทั้งประเทศ 22 วัน 20-80% -เพิ่มร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ 3 หมื่นแห่ง – เปิดโอกาสขายสินค้าในห้าง
          เริ่มต้นสัปดาห์ ก็มีข่าวดีสำหรับการลดค่าครองชีพ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับห้างสรรพสินค้า 15 ราย ผู้ผลิตสินค้า 32 ราย และสมาคมผู้ประกอบการค้า 3 สมาคม เพื่อหาแนวทางลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยได้ข้อสรุปว่า จะจัดมหกรรมลดราคาสินค้า ภายใต้ชื่อ “รวมใจ เพิ่มสุข ลดรับปีใหม่" ระหว่างวันที่ 14 ธ.ค.2560 ถึง 4 ม.ค.2561 รวม 22 วัน โดยจะลดราคาสินค้าตั้งแต่ 20% ไปจนถึงสูงสุด 80% โดยเน้นสินค้าอุปโภคบริโภคและของใช้ในชีวิตประจำวันรวมกว่า 10,000 รายการ จัดในทุกสาขาของห้างทั่วประเทศ และยังมีสินค้าโอทอป สินค้าชุมชน สินค้าของ SMEs มาร่วมลดราคาด้วย คาดว่าจะมีเงินสะพัด 3 หมื่นล้านบาท ลดค่าครองชีพได้ไม่ต่ำกว่า 7-8 พันล้านบาท
          สำหรับร้านค้าสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ตอนนี้เป็นขวัญใจคนจนไปแล้วนั้น ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์กำลังเจรจากับกระทรวงการคลัง เพื่อให้มีการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) เพิ่มเติม โดยจะขอเพิ่มจำนวนร้านค้าเป็น 3 หมื่นร้าน จากเฟสแรกที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1.8 หมื่นร้าน และกำลังจะติดตั้งเครื่องรูดบัตรได้ครบภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งหากมีจำนวนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดินทางมาซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น
          ปิดท้ายที่ การเปิดรับสมัครผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน ที่สนใจจะนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในพื้นที่ของห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ให้แจ้งความประสงค์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด อำเภอ และสำนักงานเขตทุกเขต สมัครได้จนถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยเบื้องต้นมีห้างที่พร้อมร่วมมือแล้ว เช่น บิ๊กซี เดอะมอลล์ แม็คโคร เทสโก้ โลตัส และเซ็นทรัล อยู่ใกล้สาขาของห้างที่ไหน จังหวัดใด รีบกันหน่อย




 
2.สั่งจับการจำหน่ายสินค้าละเมิดหมวก เสื้อ โครงการ “ก้าวคนละก้าว”
          ขณะที่ “ตูน บอดี้สแลม” ออกวิ่งตามโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” แต่อีกฟากหนึ่งก็มีพวกฉวยโอกาสหาประโยชน์ โดยการปลอมหมวกและเสื้อในโครงการออกจำหน่าย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เอาจริง และสั่งดำเนินการขั้นเด็ดขาด เจอที่ไหน จับที่นั่น เพราะโครงการนี้ คนไทยทั้งประเทศให้การสนับสนุน ไม่ควรจะเจอแบบนี้ และ “บอส” แห่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา ต้องแวะเวียนไปเช็กอินแถวๆ ตลาดโบ๊เบ๊ แบบว่า #แอบมาส่องหาเสื้อพี่ตูนปลอม เพื่อให้รู้ว่า “งานนี้พี่เอาจริง จับจริง” ก่อนย้ำเสียงดังๆ คนที่คิดปลอม มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคนขายก็ไม่รอด คุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ



         
3.เวทีประชุมผู้นำอาเซียน ลงนาม FTA อาเซียน-ฮ่องกง – ปิดดีล FTA อาเซียน-ญี่ปุ่น –วางกรอบร่วมมืออาเซียน
          ช่วงสุดสัปดาห์ก่อนต่อเนื่องจนถึงต้นสัปดาห์ ได้มีการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 31 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าร่วมในฐานะรัฐมนตรีเศรษฐกิจฝ่ายไทย มีไฮไลต์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการประชุมครั้งนี้มากมาย เริ่มจากการลงนามความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) โดยกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2562 เป็นต้นไป ซึ่งงานนี้ ไทยจะได้ประโยชน์เต็มๆ จากการใช้ฮ่องกงเป็นฐานการส่งออกทะลุเข้าไปยังจีน จะมีการเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านที่ฮ่องกงเชี่ยวชาญ เช่น การเงิน โลจิสติกส์ และยังจะเพิ่มโอกาสในการเชื่อมโยงการลงทุนใน EEC – หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และเขตเศรษฐกิจใหม่ (ฮ่องกง มาเก๊าและมณฑลกว้างตุ้งของจีน) ด้วย
          อีกด้านได้มีการสรุปผลการเจรจาการค้าบริการและการลงทุนระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น หลังจากที่ใช้เวลาเจรจาในประเด็นนี้มานานกว่า 5 ปี ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่นขยายตัวได้เพิ่มขึ้น และอาเซียนยังมีการเห็นชอบกรอบการดำเนินงานของอาเซียน โดยจะมุ่งการอำนวยความสะดวกทางการค้า ตั้งเป้าลดต้นทุนธุรกรรมทางการค้าลง 10% ภายในปี 2563 ตั้งเป้าขยายการค้าระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น เน้นการให้ความช่วยเหลือ MSMEs เน้นการค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ เน้นการส่งเสริมนวัตกรรม เป็นต้น


 
4.เตรียมจัดงานแฟร์ทั้งเล็กและใหญ่ในตลาดอาเซียน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยนำสินค้าไปโชว์
          ข่าวการจัดทำแผนการขยายตลาดอาเซียนปี 2561 ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการที่ต้องการขยายตลาดอาเซียน โดยตามแผน กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดจัดงานแสดงสินค้าในตลาดอาเซียนทั้งในรูปแบบ Top Thai Brand ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่จะนำสินค้ามีแบรด์ของไทยไปจัดแสดง และ Mini Thailand Week ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าไม่ใหญ่มาก แต่เน้นการจัดแบบถี่ๆ และการจัดงาน Thailand Week ที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ตั้งเป้าจัดตั้งแต่ต้นปียาวไปจนถึงปลายปี ผู้ประกอบการที่สนใจนำสินค้าไปโชว์ เพื่อหาลู่ทางในการขยายตลาด สามารถติดต่อเข้าร่วมงานได้ ติดต่อเบอร์นี้เลย สายด่วน 1169

 


5.เคาะเลือก “ตลาดไท-ตลาดต่อยอด” ตั้งตลาดกลางข้าวสาร 2 แห่ง เน้นขายในประเทศ และขายส่งออก
          ในที่สุดกระทรวงพาณิชย์ก็ได้พิจารณาคัดเลือกเอกชนให้เป็นผู้จัดตั้งตลาดกลางข้าวสาร หลังจากที่ได้เปิดรับสมัครมาตั้งแต่เดือนมิ.ย.2560 โดยได้สรุปที่จะให้เอกชน 2 รายที่ผ่านคุณสมบัติ คือ บริษัท ไทยแอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการตลาดไท และบริษัท TCC Land Asset World ในเครือ TCC ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้บริหารตลาดต่อยอด เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งตลาดกลางข้าวสาร โดยรายแรกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดภายในประเทศ ส่วนรายหลังเชี่ยวชาญด้านตลาดต่างประเทศ ก็เลยให้ทั้ง 2 ราย และจะมีการลงนามใน MOU กันช่วงต้นเดือนธ.ค.นี้ จากนั้นเอกชนก็จะไปดำเนินการเตรียมความพร้อมในการเปิดตลาด คาดว่า อย่างช้าไม่น่าจะเกินเดือนเม.ย.หรือพ.ค.2561
          สำหรับตลาดกลางข้าวสาร จะช่วยให้เกษตรกรมีสถานที่จำหน่ายข้าวโดยตรง และจะได้เห็นทิศทางความต้องการของตลาดว่าเป็นไปทางใด มีความต้องการข้าวประเภทไหน คุณภาพแบบใด จะได้นำความรู้ที่ได้ไปปรับปรุงพัฒนาการผลิตข้าวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ขณะที่ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าข้าว จะมีแหล่งเลือกซื้อข้าวได้หลากหลายมากขึ้น และสามารถเดินทางมาที่เดียว ก็สามารถเลือกซื้อข้าวที่ต้องการได้ทุกประเภท และยังจะช่วยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการค้าข้าวสารของโลกได้ด้วย